เพิ่มยอดลงทุนในอีอีซีเป็นกว่า 600,000 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 15 ม.ค.- เล็งเพิ่มเป้าลงทุนอีอีซีจาก 5 ปี 500,000 ล้านบาทเป็นมากกว่า 600,000 ล้านบาท


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี กล่าวภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการอีอีซี ว่า ปี 2560 ที่ผ่านมา นักลงทุนสนใจยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซีต่อคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย สูงถึง 252,000 ล้านบาท นับว่า ตัวเลขสนใจลงทุนเร็วกว่าเป้าหมายที่เดิมตั้งเป้าหมายไว้ว่าในช่วง 5 ปี อีอีซี จะมีตัวเลขการลงทุนรวม 500,000 ล้านบาท ดังนั้น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จึงสั่งให้ทางสำนักงานอีอีซีและบีโอไอพิจารณาปรับตัวเลขการลงทุนใหม่ โดยเฉพาะเมื่ออีอีซีสามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ได้ ฉะนั้นจะพิจารณาปรับเป้าหมายการลงทุนในช่วง 5 ปีเพิ่มเป็น 600,000 ล้านบาทอาจจะปรับน้อยไป อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้สรุปว่า เป้าหมายใหม่จะเพิ่มเป็นเท่าใด โครงการพัฒนาอีอีซี จะเป็นโครงที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ด้วย โดยจะเสนอคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาในวันที่ 1 ก.พ.2561

สำหรับตัวเลขการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ตัวเลขเดือนพฤศจิกายน 2560 หรือ  8 เดือน มีโครงการลงทุนมูลค่า 10,400 ล้านบาท และเมื่อครบปี 2560 บีโอไอแจ้งตัวเลขยื่นขอรับการส่งเสริมโครงการลงทุน มียอดตลอดปีรวม 296,889 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนใน 5 อุตสาหกรรมเดิมร้อยละ 30 และการลงทุนใน 5 อุตสาหกรรมใหม่คิดเป็นร้อยละ 54 รวมแล้ว เป็นการยอดสนใจลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายคิดร้อยละ 84 ส่วนการลงทุนในปี 2561 แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ การลงทุนกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน 5 โครงการ จะมีเม็ดเงินลงทุนประมาณ 600,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด เฟส 3 และโครงการลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา ลงทุนโครงการละประมาณ 200,000 ล้านบาท 


นอกจากนี้ ทางกนอ.และอีอีซี จะเสนอขอเปิดพื้นที่ทำนิคมอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการเข้ามาลงทุนภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น จากเดิมขอไป แล้วพื้นที่รวม 2,300 ไร่ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารอีอีซี วันที่ 17 ม.ค.นี้ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจะเป็นประธาน สำนักงานอีอีซี จะขอเปิดพื้นที่รองรับการเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นอีก 18 แห่งเป็นพื่้นที่ใหม่เพิ่มอีก 26,461 ไร่ เชื่อว่า สามารถรองรับการลงทุนได้ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท แต่เอกชนรายใดสนใจก็สามารถขอเปิดพื้นที่เพิ่มเติมได้ และการเจรจากับนักลงทุนจีนที่จะเข้ามาจึงจัดให้มีนิคมอุตสาหกรรมพิเศษสื่อสารภาษาจีนเพื่อรองรับนักลงทุนจีนเป็นนิคมที่อำเภอบ้านค่าย ด้านกรมศุลกากรเขตวันสตอปเซอร์ได้ทำระบบเรียบร้อยแล้วในการนำของเข้าออกเขตนี้ นอกจากนี้ สำนักงานอีอีซี จะเสนอแผนการพัฒนาการท่องเที่ยว 4 ปี ซึ่งกำหนดคนเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1.5 เท่าจากปัจจุบันมียอดนักท่องเที่ยว 30 ล้านคน จะเพิ่มเป็น 1.8 เท่า จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่เพิ่มเป็น 47 ล้านคน มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม ที่มีรายได้ 250,000  ล้านบาท จะเพิ่มเป็น 500,000 ล้านบาท ทั้งนี้จะให้เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเข้ากับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ด้านการศึกษา จะร่วมมือกับภาคเอกชน ระหว่างสำนักงานอีอีซี เอกชน กระทรวงศึกษาธิการ นำคนในพื้นที่ที่ว่างงานมาพัฒนาทักษะใหม่ และโครงการพัฒนาด้านอาชีวะศึกษาที่ร่วมกับภาคเอกชน 


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า   โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซี 5  โครงการ ขณะนี้ได้กำหนดเวลาดำเนินโครงการที่ชัดเจนแล้ว ประกอบด้วย โครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมระหว่างสนามบินดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานอู่ตะเภา ทีโออาร์ จะเสร็จและประกาศให้เอกชนที่สนใจยื่นประมูลได้ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2561 แน่นอน และจะมีการคัดเลือกเอกชนเสร็จในเดือนกรกฎาคม ลงนามสัญญาโครงการได้ในเดือนกันยายนปีนี้ โครงการนี้ดำเนินการโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) มีเป้าหมายเปิดให้บริการในปี 2566 

โครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา ทีโออาร์ จะประกาศทีโออาร์ในเดือนกรกฎาคมปีนี้ คัดเลือกเอกชนเสร็จ ในเดือนพฤศจิกายน มีการลงนามในสัญญาในเดือนธันวาคมปีนี้ โดย กองทัพเรือเป็นเจ้าภาพดำเนินการ มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2566 

โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานหรือ MRO ประกาศทีโออาร์ ในเดือนมีนาคม 2561 คัดเลือกเอกชนเสร็จเดือนพฤษภาคม จะมีการลงนามในสัญญาโครงการ ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ โครงการนี้ดำเนินการโดยการบินไทย (จำกัด) มหาชน และจะเห็นโครงการนี้เกิดขึ้นได้ในปี 2564 

โครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 จะประกาศทีโออาร์ เดือนมิถุนายนปีนี้ คัดเลือกเอกชนเสร็จในเดือนกันยายน และมีการลงนามสัญญาโครงการได้ในเดือนพฤศจิกายน โครงการนี้ ดำเนินการโดยการนิคม อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) มีกำหนดเปิดให้บริการ ในปี  2567 

โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ประกาศทีโออาร์ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ คัดเลือกเอกชนได้ในเดือนพฤศจิกายน มีการลงนามในสัญญาในเดือนธันวาคมปีนี้ กำหนดเปิดให้บริการในปี 2568 

สำหรับร่างพระราชบัญญัติ(พรบ.) อีอีซี จะเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่งผลให้ภาพการลงทุนในอีอีซีปีนี้ จะมีการเริ่มต้นของโครงการสำคัญ 5 โครงการและมีการดูแลอย่างเหมาะสมโดยพรบ.อีอีซี และการลงทุนในปี 2561 กว่าร้อยละ 60 จะลงทุนในอีอีซี

ด้านกนอ.จะได้รับให้ไปจัดทำแผนว่าด้วยการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เป็นพิเศษ ขณะนี้กนอ. เริ่มแล้วที่แหลมฉบัง โดยแผนจะส่งให้คณะกรรมการอีอีซีพิจารณาใน อีก 2 สัปดาห์นับจากนี้ไป

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า เพื่อเป็นหลักประกันสำคัญของการเดินหน้าโครงการอีอีซี โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะพร้อมรองรับการลงทุนในอีอีซี โดยการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา ที่สัตหีบ หลังพัฒนาเฟส 3 เสร็จ จะเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากที่ปัจจุบันรองรับได้ไม่เกิน 3 ล้านคน จะเพิ่มเป็นรองรับได้ในระดับ 30  ล้านคน ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับท่าอากาศยานสุวรรภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ด้านการเชื่อมต่อ 3 ท่าอากาศยาน จะมีโครงการรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือมาบตาพุดและท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 รองรับตู้สินค้าได้ 12-15 ล้านบีทียู จะทำให้กลายเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 ของเอเชียอาคเนย์ มีขนาดรองรับตู้ขนส่งสินค้าในขนาดที่เท่ากับกับท่าเรือในประเทศสิงคโปร์และท่าเรือของประเทศมาเลเซีย เป็นประกันผู้ลงทุนในอีอีซีว่า จะมีการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อด้วยระบบรถ ราง เรือ เชื่อมต่อทั้งหมด-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

สระแก้วพบผู้ป่วยติดเชื้อแอนแทรกซ์รายแรก

สระแก้ว 2 มิ.ย.- สระแก้วพบผู้ป่วยแอนแทรกซ์รายแรก ซักประวัติชอบกินก้อย-ซอยจุ๊-เนื้อดิบ จนท.เตรียมลงพื้นที่สอบสวนโรคเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ นายแพทย์ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์รายแรกของจังหวัด เป็นชาย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้างตัดไม้ อยู่ที่ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี ด้วยอาการตุ่มแผลบริเวณศีรษะ ด้านหลังคอ แขน และขา การตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อแอนแทรกซ์ จากการซักประวัติพบว่า ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเสี่ยง คือ ดื่มสุราทุกวัน และชอบบริโภคก้อย ซอยจุ๊ เนื้อดิบเป็นประจำ ล่าสุดได้รับประทานเนื้อดิบเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากการบริโภคเนื้อสัตว์ป่วยที่ไม่ได้รับการปรุงสุก วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) จะลงสอบสวนโรคเพื่อเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ เน้นย้ำให้ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้วและพื้นที่ใกล้เคียง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสโค กระบือ แพะ แกะ ที่ป่วยหรือตายผิดปกติ ล้างมือและชำระล้างร่างกายหลังสัมผัสสัตว์ เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย บริโภคอาหารที่ปรุงสุก ร้อน และสะอาดเท่านั้น หากพบสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ […]

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 2 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย