เพิ่มยอดลงทุนในอีอีซีเป็นกว่า 600,000 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 15 ม.ค.- เล็งเพิ่มเป้าลงทุนอีอีซีจาก 5 ปี 500,000 ล้านบาทเป็นมากกว่า 600,000 ล้านบาท


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี กล่าวภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการอีอีซี ว่า ปี 2560 ที่ผ่านมา นักลงทุนสนใจยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซีต่อคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย สูงถึง 252,000 ล้านบาท นับว่า ตัวเลขสนใจลงทุนเร็วกว่าเป้าหมายที่เดิมตั้งเป้าหมายไว้ว่าในช่วง 5 ปี อีอีซี จะมีตัวเลขการลงทุนรวม 500,000 ล้านบาท ดังนั้น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จึงสั่งให้ทางสำนักงานอีอีซีและบีโอไอพิจารณาปรับตัวเลขการลงทุนใหม่ โดยเฉพาะเมื่ออีอีซีสามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ได้ ฉะนั้นจะพิจารณาปรับเป้าหมายการลงทุนในช่วง 5 ปีเพิ่มเป็น 600,000 ล้านบาทอาจจะปรับน้อยไป อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้สรุปว่า เป้าหมายใหม่จะเพิ่มเป็นเท่าใด โครงการพัฒนาอีอีซี จะเป็นโครงที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ด้วย โดยจะเสนอคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาในวันที่ 1 ก.พ.2561

สำหรับตัวเลขการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ตัวเลขเดือนพฤศจิกายน 2560 หรือ  8 เดือน มีโครงการลงทุนมูลค่า 10,400 ล้านบาท และเมื่อครบปี 2560 บีโอไอแจ้งตัวเลขยื่นขอรับการส่งเสริมโครงการลงทุน มียอดตลอดปีรวม 296,889 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนใน 5 อุตสาหกรรมเดิมร้อยละ 30 และการลงทุนใน 5 อุตสาหกรรมใหม่คิดเป็นร้อยละ 54 รวมแล้ว เป็นการยอดสนใจลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายคิดร้อยละ 84 ส่วนการลงทุนในปี 2561 แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ การลงทุนกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน 5 โครงการ จะมีเม็ดเงินลงทุนประมาณ 600,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด เฟส 3 และโครงการลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา ลงทุนโครงการละประมาณ 200,000 ล้านบาท 


นอกจากนี้ ทางกนอ.และอีอีซี จะเสนอขอเปิดพื้นที่ทำนิคมอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการเข้ามาลงทุนภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น จากเดิมขอไป แล้วพื้นที่รวม 2,300 ไร่ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารอีอีซี วันที่ 17 ม.ค.นี้ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจะเป็นประธาน สำนักงานอีอีซี จะขอเปิดพื้นที่รองรับการเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นอีก 18 แห่งเป็นพื่้นที่ใหม่เพิ่มอีก 26,461 ไร่ เชื่อว่า สามารถรองรับการลงทุนได้ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท แต่เอกชนรายใดสนใจก็สามารถขอเปิดพื้นที่เพิ่มเติมได้ และการเจรจากับนักลงทุนจีนที่จะเข้ามาจึงจัดให้มีนิคมอุตสาหกรรมพิเศษสื่อสารภาษาจีนเพื่อรองรับนักลงทุนจีนเป็นนิคมที่อำเภอบ้านค่าย ด้านกรมศุลกากรเขตวันสตอปเซอร์ได้ทำระบบเรียบร้อยแล้วในการนำของเข้าออกเขตนี้ นอกจากนี้ สำนักงานอีอีซี จะเสนอแผนการพัฒนาการท่องเที่ยว 4 ปี ซึ่งกำหนดคนเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1.5 เท่าจากปัจจุบันมียอดนักท่องเที่ยว 30 ล้านคน จะเพิ่มเป็น 1.8 เท่า จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่เพิ่มเป็น 47 ล้านคน มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม ที่มีรายได้ 250,000  ล้านบาท จะเพิ่มเป็น 500,000 ล้านบาท ทั้งนี้จะให้เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเข้ากับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ด้านการศึกษา จะร่วมมือกับภาคเอกชน ระหว่างสำนักงานอีอีซี เอกชน กระทรวงศึกษาธิการ นำคนในพื้นที่ที่ว่างงานมาพัฒนาทักษะใหม่ และโครงการพัฒนาด้านอาชีวะศึกษาที่ร่วมกับภาคเอกชน 


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า   โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซี 5  โครงการ ขณะนี้ได้กำหนดเวลาดำเนินโครงการที่ชัดเจนแล้ว ประกอบด้วย โครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมระหว่างสนามบินดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานอู่ตะเภา ทีโออาร์ จะเสร็จและประกาศให้เอกชนที่สนใจยื่นประมูลได้ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2561 แน่นอน และจะมีการคัดเลือกเอกชนเสร็จในเดือนกรกฎาคม ลงนามสัญญาโครงการได้ในเดือนกันยายนปีนี้ โครงการนี้ดำเนินการโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) มีเป้าหมายเปิดให้บริการในปี 2566 

โครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา ทีโออาร์ จะประกาศทีโออาร์ในเดือนกรกฎาคมปีนี้ คัดเลือกเอกชนเสร็จ ในเดือนพฤศจิกายน มีการลงนามในสัญญาในเดือนธันวาคมปีนี้ โดย กองทัพเรือเป็นเจ้าภาพดำเนินการ มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2566 

โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานหรือ MRO ประกาศทีโออาร์ ในเดือนมีนาคม 2561 คัดเลือกเอกชนเสร็จเดือนพฤษภาคม จะมีการลงนามในสัญญาโครงการ ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ โครงการนี้ดำเนินการโดยการบินไทย (จำกัด) มหาชน และจะเห็นโครงการนี้เกิดขึ้นได้ในปี 2564 

โครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 จะประกาศทีโออาร์ เดือนมิถุนายนปีนี้ คัดเลือกเอกชนเสร็จในเดือนกันยายน และมีการลงนามสัญญาโครงการได้ในเดือนพฤศจิกายน โครงการนี้ ดำเนินการโดยการนิคม อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) มีกำหนดเปิดให้บริการ ในปี  2567 

โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ประกาศทีโออาร์ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ คัดเลือกเอกชนได้ในเดือนพฤศจิกายน มีการลงนามในสัญญาในเดือนธันวาคมปีนี้ กำหนดเปิดให้บริการในปี 2568 

สำหรับร่างพระราชบัญญัติ(พรบ.) อีอีซี จะเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่งผลให้ภาพการลงทุนในอีอีซีปีนี้ จะมีการเริ่มต้นของโครงการสำคัญ 5 โครงการและมีการดูแลอย่างเหมาะสมโดยพรบ.อีอีซี และการลงทุนในปี 2561 กว่าร้อยละ 60 จะลงทุนในอีอีซี

ด้านกนอ.จะได้รับให้ไปจัดทำแผนว่าด้วยการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เป็นพิเศษ ขณะนี้กนอ. เริ่มแล้วที่แหลมฉบัง โดยแผนจะส่งให้คณะกรรมการอีอีซีพิจารณาใน อีก 2 สัปดาห์นับจากนี้ไป

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า เพื่อเป็นหลักประกันสำคัญของการเดินหน้าโครงการอีอีซี โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะพร้อมรองรับการลงทุนในอีอีซี โดยการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา ที่สัตหีบ หลังพัฒนาเฟส 3 เสร็จ จะเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากที่ปัจจุบันรองรับได้ไม่เกิน 3 ล้านคน จะเพิ่มเป็นรองรับได้ในระดับ 30  ล้านคน ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับท่าอากาศยานสุวรรภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ด้านการเชื่อมต่อ 3 ท่าอากาศยาน จะมีโครงการรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือมาบตาพุดและท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 รองรับตู้สินค้าได้ 12-15 ล้านบีทียู จะทำให้กลายเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 ของเอเชียอาคเนย์ มีขนาดรองรับตู้ขนส่งสินค้าในขนาดที่เท่ากับกับท่าเรือในประเทศสิงคโปร์และท่าเรือของประเทศมาเลเซีย เป็นประกันผู้ลงทุนในอีอีซีว่า จะมีการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อด้วยระบบรถ ราง เรือ เชื่อมต่อทั้งหมด-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]

“ภูมิธรรม” อุบตอบรายละเอียดถก GBC บอกทิศทางดี

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” อุบตอบรายละเอียดถก GBC ไทย-กัมพูชา ขอพูดทีเดียวหลังเจรจา บอกทิศทางดี ด้าน “บิ๊กเล็ก” หวังพรุ่งนี้มีข่าวดี มั่นใจ 90% ยอมรับกังวลบ้าง แต่มีผู้สังเกตการณ์ประเทศอื่น เขมรคงไม่กล้า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และคณะรัฐมนตรีชุดเล็ก ว่า ที่ประชุมวันนี้ได้รับฟังข้อมูลจากคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ฝ่ายเลขานุการ รายงานผลการหารือ ในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม จากการพูดคุยมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี โดยจะแถลงรายละเอียดเมื่อมีการหารือเสร็จสิ้นในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.68) ซึ่งการเจรจาในวันพรุ่งนี้ได้ให้แนวทาง พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้าร่วมการประชุม เพื่อให้ได้ข้อยุติอย่างดีที่สุด พร้อมยืนยันว่าในการหารือครั้งนี้จะไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถตอบได้ ด้านพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประขุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ว่า มีความมั่นใจ […]