เพิ่มยอดลงทุนในอีอีซีเป็นกว่า 600,000 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 15 ม.ค.- เล็งเพิ่มเป้าลงทุนอีอีซีจาก 5 ปี 500,000 ล้านบาทเป็นมากกว่า 600,000 ล้านบาท


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี กล่าวภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการอีอีซี ว่า ปี 2560 ที่ผ่านมา นักลงทุนสนใจยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซีต่อคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย สูงถึง 252,000 ล้านบาท นับว่า ตัวเลขสนใจลงทุนเร็วกว่าเป้าหมายที่เดิมตั้งเป้าหมายไว้ว่าในช่วง 5 ปี อีอีซี จะมีตัวเลขการลงทุนรวม 500,000 ล้านบาท ดังนั้น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จึงสั่งให้ทางสำนักงานอีอีซีและบีโอไอพิจารณาปรับตัวเลขการลงทุนใหม่ โดยเฉพาะเมื่ออีอีซีสามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ได้ ฉะนั้นจะพิจารณาปรับเป้าหมายการลงทุนในช่วง 5 ปีเพิ่มเป็น 600,000 ล้านบาทอาจจะปรับน้อยไป อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้สรุปว่า เป้าหมายใหม่จะเพิ่มเป็นเท่าใด โครงการพัฒนาอีอีซี จะเป็นโครงที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ด้วย โดยจะเสนอคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาในวันที่ 1 ก.พ.2561

สำหรับตัวเลขการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ตัวเลขเดือนพฤศจิกายน 2560 หรือ  8 เดือน มีโครงการลงทุนมูลค่า 10,400 ล้านบาท และเมื่อครบปี 2560 บีโอไอแจ้งตัวเลขยื่นขอรับการส่งเสริมโครงการลงทุน มียอดตลอดปีรวม 296,889 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนใน 5 อุตสาหกรรมเดิมร้อยละ 30 และการลงทุนใน 5 อุตสาหกรรมใหม่คิดเป็นร้อยละ 54 รวมแล้ว เป็นการยอดสนใจลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายคิดร้อยละ 84 ส่วนการลงทุนในปี 2561 แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ การลงทุนกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน 5 โครงการ จะมีเม็ดเงินลงทุนประมาณ 600,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด เฟส 3 และโครงการลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา ลงทุนโครงการละประมาณ 200,000 ล้านบาท 


นอกจากนี้ ทางกนอ.และอีอีซี จะเสนอขอเปิดพื้นที่ทำนิคมอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการเข้ามาลงทุนภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น จากเดิมขอไป แล้วพื้นที่รวม 2,300 ไร่ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารอีอีซี วันที่ 17 ม.ค.นี้ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจะเป็นประธาน สำนักงานอีอีซี จะขอเปิดพื้นที่รองรับการเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นอีก 18 แห่งเป็นพื่้นที่ใหม่เพิ่มอีก 26,461 ไร่ เชื่อว่า สามารถรองรับการลงทุนได้ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท แต่เอกชนรายใดสนใจก็สามารถขอเปิดพื้นที่เพิ่มเติมได้ และการเจรจากับนักลงทุนจีนที่จะเข้ามาจึงจัดให้มีนิคมอุตสาหกรรมพิเศษสื่อสารภาษาจีนเพื่อรองรับนักลงทุนจีนเป็นนิคมที่อำเภอบ้านค่าย ด้านกรมศุลกากรเขตวันสตอปเซอร์ได้ทำระบบเรียบร้อยแล้วในการนำของเข้าออกเขตนี้ นอกจากนี้ สำนักงานอีอีซี จะเสนอแผนการพัฒนาการท่องเที่ยว 4 ปี ซึ่งกำหนดคนเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1.5 เท่าจากปัจจุบันมียอดนักท่องเที่ยว 30 ล้านคน จะเพิ่มเป็น 1.8 เท่า จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่เพิ่มเป็น 47 ล้านคน มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม ที่มีรายได้ 250,000  ล้านบาท จะเพิ่มเป็น 500,000 ล้านบาท ทั้งนี้จะให้เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเข้ากับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ด้านการศึกษา จะร่วมมือกับภาคเอกชน ระหว่างสำนักงานอีอีซี เอกชน กระทรวงศึกษาธิการ นำคนในพื้นที่ที่ว่างงานมาพัฒนาทักษะใหม่ และโครงการพัฒนาด้านอาชีวะศึกษาที่ร่วมกับภาคเอกชน 


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า   โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซี 5  โครงการ ขณะนี้ได้กำหนดเวลาดำเนินโครงการที่ชัดเจนแล้ว ประกอบด้วย โครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมระหว่างสนามบินดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานอู่ตะเภา ทีโออาร์ จะเสร็จและประกาศให้เอกชนที่สนใจยื่นประมูลได้ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2561 แน่นอน และจะมีการคัดเลือกเอกชนเสร็จในเดือนกรกฎาคม ลงนามสัญญาโครงการได้ในเดือนกันยายนปีนี้ โครงการนี้ดำเนินการโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) มีเป้าหมายเปิดให้บริการในปี 2566 

โครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา ทีโออาร์ จะประกาศทีโออาร์ในเดือนกรกฎาคมปีนี้ คัดเลือกเอกชนเสร็จ ในเดือนพฤศจิกายน มีการลงนามในสัญญาในเดือนธันวาคมปีนี้ โดย กองทัพเรือเป็นเจ้าภาพดำเนินการ มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2566 

โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานหรือ MRO ประกาศทีโออาร์ ในเดือนมีนาคม 2561 คัดเลือกเอกชนเสร็จเดือนพฤษภาคม จะมีการลงนามในสัญญาโครงการ ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ โครงการนี้ดำเนินการโดยการบินไทย (จำกัด) มหาชน และจะเห็นโครงการนี้เกิดขึ้นได้ในปี 2564 

โครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 จะประกาศทีโออาร์ เดือนมิถุนายนปีนี้ คัดเลือกเอกชนเสร็จในเดือนกันยายน และมีการลงนามสัญญาโครงการได้ในเดือนพฤศจิกายน โครงการนี้ ดำเนินการโดยการนิคม อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) มีกำหนดเปิดให้บริการ ในปี  2567 

โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ประกาศทีโออาร์ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ คัดเลือกเอกชนได้ในเดือนพฤศจิกายน มีการลงนามในสัญญาในเดือนธันวาคมปีนี้ กำหนดเปิดให้บริการในปี 2568 

สำหรับร่างพระราชบัญญัติ(พรบ.) อีอีซี จะเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่งผลให้ภาพการลงทุนในอีอีซีปีนี้ จะมีการเริ่มต้นของโครงการสำคัญ 5 โครงการและมีการดูแลอย่างเหมาะสมโดยพรบ.อีอีซี และการลงทุนในปี 2561 กว่าร้อยละ 60 จะลงทุนในอีอีซี

ด้านกนอ.จะได้รับให้ไปจัดทำแผนว่าด้วยการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เป็นพิเศษ ขณะนี้กนอ. เริ่มแล้วที่แหลมฉบัง โดยแผนจะส่งให้คณะกรรมการอีอีซีพิจารณาใน อีก 2 สัปดาห์นับจากนี้ไป

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า เพื่อเป็นหลักประกันสำคัญของการเดินหน้าโครงการอีอีซี โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะพร้อมรองรับการลงทุนในอีอีซี โดยการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา ที่สัตหีบ หลังพัฒนาเฟส 3 เสร็จ จะเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากที่ปัจจุบันรองรับได้ไม่เกิน 3 ล้านคน จะเพิ่มเป็นรองรับได้ในระดับ 30  ล้านคน ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับท่าอากาศยานสุวรรภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ด้านการเชื่อมต่อ 3 ท่าอากาศยาน จะมีโครงการรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือมาบตาพุดและท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 รองรับตู้สินค้าได้ 12-15 ล้านบีทียู จะทำให้กลายเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 ของเอเชียอาคเนย์ มีขนาดรองรับตู้ขนส่งสินค้าในขนาดที่เท่ากับกับท่าเรือในประเทศสิงคโปร์และท่าเรือของประเทศมาเลเซีย เป็นประกันผู้ลงทุนในอีอีซีว่า จะมีการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อด้วยระบบรถ ราง เรือ เชื่อมต่อทั้งหมด-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย