แจงทำคดี”ณิชา”ถูกสวมบัตรประชาชนตามพยานหลักฐาน

กรุงเทพฯ 10 ม.ค.- ตำรวจแจงทำคดี”ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์” ถูกสวมบัตรประชาชนตามพยานหลักฐาน


พ.ต.อ.กฤษณะ   พัฒนเจริญ  รองโฆษก ตร.เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี น.ส.ณิชา  เกียรติธนะไพบูลย์ ร้องขอความเป็นธรรมกรณีถูกคนร้ายสวมบัตรประชาชนแล้วนำไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อหลอกลวงให้ผู้เสียหายคนอื่นโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว  ว่า หลังผู้เสียหายรายหนึ่งเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก ว่าได้มีกลุ่มคนร้ายอ้างตัวเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งรู้จักทางเฟสบุ๊คหลอกลวงให้ทำธุรกิจซื้อขายที่ดินในประเทศไทย   ต่อมาได้ส่งเงินค่าซื้อที่ดินมายังประเทศไทยแต่ติดปัญหาเรื่องค่าธรรมเนียม   กลุ่มคนร้ายจึงแจ้งให้ผู้เสียหายรายดังกล่าวโอนเงินค่าธรรมเนียมกว่า  1,375,000  บาท โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ชื่อบัญชี “น.ส.ณิชา  เกียรติธนะไพบูลย์”      เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว จำนวนหลายครั้งรวมเป็นเงิน 1,375,000  บาท  ต่อมาผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อกลุ่มคนร้ายได้    จึงเข้าร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายรวมถึงเจ้าของบัญชีธนาคารดังกล่าวให้ได้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด           ซึ่งคดีนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหาย ,ขอเอกสารคำขอเปิดบัญชี  รายการเดินบัญชีจากธนาคาร  จากนั้นได้ออกหมายเรียกเจ้าของบัญชีธนาคารคือ น.ส.ณิชา  เกียรติธนะไพบูลย์ เพื่อเข้าให้การเกี่ยวกับบัญชีธนาคารดังกล่าวแต่ น.ส.ณิชาฯ ไม่ได้เข้ามาพบหรือมาแสดงตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก    พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติหมายจับและศาลจังหวัดตากและได้อนุมัติหมายจับเจ้าของบัญชีคือ น.ส.ณิชาฯ  ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” เพื่อติดตามตัว น.ส.ณิชาฯ มาดำเนินคดีเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ขอเท็จจริงทางกระบวนการทางกฎหมาย

จนกระทั่งวันที่ 4 มกราคม 2561  น.ส.ณิชาฯ ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามและได้ถูกส่งตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.บ้านตาก  ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ     ในทางคดีพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก ได้ดำเนินการสอบสวน น.ส.ณิชาฯ ตามกระบวนการของกฎหมายทุกประการ  ได้บันทึกคำให้การผู้ต้องหาพร้อมทั้งได้รวบรวมพยานหลักฐานที่ น.ส.ณิชาฯ นำมาให้ไว้ทุกอย่างแล้ว     แต่เนื่องจาก น.ส.ณิชาฯ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดตาก  พนักงานสอบสวนจึงต้องส่งตัวไปยังศาลจังหวัดตากตามกระบวนการของกฎหมายที่กำหนดไว้    ส่วนศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่นั้นอยู่ในดุลยพินิจของศาล    พนักงานสอบสวนจะก้าวล่วงมิได้   ส่วนการสอบสวนนั้นอยู่ระหว่างประสานขอข้อมูลจากธนาคารและสอบปากคำเจ้าหน้าที่ธนาคารเกี่ยวกับรายละเอียดการเปิดบัญชีรวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดมายืนยันอีกชั้นหนึ่ง   เพื่อนำข้อมูลมาประกอบสำนวนการสอบสวนเพื่อมีความเห็นทางคดีส่งพนักงานอัยการต่อไป


ส่วนกรณีที่คนร้ายนำบัตรประชาชนของ น.ส.ณิชาฯ ไปเปิดบัญชีนั้น    กองบังคับการปราบปราบได้รับคำร้องทุกข์จาก น.ส.ณิชาฯ ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  และได้แยกสำนวนการสอบสวนออกเป็นอีกคดี เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายที่นำบัตรประชาชนของ น.ส.ณิชาฯ ไปเปิดบัญชีกับธนาคาร จำนวน 3 ธนาคาร       ส่วนที่เหลืออีก 4 ธนาคารซึ่ง น.ส.ณิชาฯ เคยไปแจ้งความไว้กับสถานีตำรวจต่างๆ นั้น   อยู่ระหว่างขอโอนคดีจากสถานีตำรวจดังกล่าวมารวบรวมเป็นคดีเดียวกันเพื่อประโยชน์ในการรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการสืบสวนสอบสวนในการติดตามกลุ่มคนร้ายที่นำบัตรประชาชนของ น.ส.ณิชาฯ ไปเปิดบัญชีมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด 

รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่าในส่วนของคดีของ สภ.บ้านตาก เมื่อ น.ส.ณิชาฯ ตกเป็นผู้ต้องหาและได้แสดงพยานหลักฐานต่อพนักงานสอบสวนแล้ว   พนักงานสอบสวนมีหน้าที่พิสูจน์ความผิดและความบริสุทธิ์ตามพยานหลักฐานที่ผู้ต้องหานำมาให้พนักงานสอบสวนอยู่แล้ว  ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด และขอยืนยันว่าพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามพยานหลักฐานอยู่แล้ว   ด้วยความตรงไปตรงมาเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งฝ่ายผู้เสียหายที่สูญเสียเงินจากการถูกหลอกและ น.ส.ณิชาฯ  ที่ถูกคนร้ายนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีด้วย      ในส่วนของกองบังคับการปราบปรามได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้วและได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานโดยมีการประสานความร่วมมือและขอข้อมูลกับ สภ.บ้านตาก อยู่แล้วเพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนติดตามตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป      

รอง โฆษก ตร. ขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนที่ทำบัตรประชาชนสูญหายให้รีบดำเนินการทำบัตรประชาชนใหม่ทันที  ซึ่งเมื่อทำบัตรประชาชนใหม่แล้วบัตรเก่าจะถูกระงับการใช้งาน   หากท่านมีการทำธุรกรรมทางการเงินให้รีบไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันบัตรหายที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน    และให้นำบันทึกประจำวันดังกล่าวไปแจ้งกับธนาคารเพื่อเป็นการป้องกันการถูกแอบอ้าง หรือสวมสิทธิ์บัตรประชาชนของท่านอีกทางหนึ่ง      หากท่านไม่มั่นใจว่าบัตรประชาชนของท่านจะถูกกลุ่มมิจฉาชีพไปเปิดบัญชีนำไปหลอกลวงบุคคลอื่นหรือไม่นั้น   สามารถติดต่อขอตรวจสอบข้อมูลได้ที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  สายด่วน 1155 หมายเลขโทรศัพท์ 0 2251 9793    ซึ่งได้บูรณาการความร่วมมือกับศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน   สายด่วน 1710.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี