สอศ.ต้อนรับนักเรียนวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบล คว้า 2 รางวัลเกียรติยศเเกะสลัก

กรุงเทพฯ 9 ม.ค.-สอศ.ต้อนรับนักเรียนวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบล หลังคว้า 2 รางวัลเกียรติยศจากการเเข่งขันเเกะสลักที่เมืองฮาร์บิน ประเทศจีน ด้านเลขา สอศ.เผยภาคภูมิใจ ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้อาชีวะ ขณะที่ตัวเเทนนักเรียนย้ำคนไทยไม่เเพ้ชาติใดในโลก


นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาพร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สอศ. เดินทางมาต้อนรับคณะนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานีหลังคว้า 2 รางวัลเกียรติยศ ได้เเก่ รางวัลชนะเลิศและรางวัล Best Technique Award หรือรางวัลทักษะฝีมือใช้เทคนิคการแกะสลักยอดเยี่ยม ซึ่งสร้างสถิติรักษาแชมป์สมัยที่ 2 ให้กับทีมตนเองและสมัยที่ 9 ให้กับประเทศไทย เเละคณะนักศึกษาจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี และวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ หลังได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ร่วมกัน จากการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ ที่จัดขึ้นณ มหาวิทยาลัยวิศวกรรมฮาร์บิน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 4-7 มกราคม 2561 ซึ่งเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา 

นายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้มาต้อนรับคณะนักศึกษาจากทั้ง 3 วิทยาลัยสังกัดสอศ.ที่ไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ รางวัลครั้งนี้บ่งบอกถึงความสามารถของนักเรียนอาชีวะที่เก่งไม่เเพ้ใครในระดับโลก เพราะมีความมุ่งมั่นตั้งใจเเละทุ้มเทฝึกซ้อม ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับอาชีวะ ให้ผู้ที่สนใจหันมาเรียนมากขึ้น เเละภาพลักษณ์ที่ดีให้กับไทย ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตได้ เเละเตรียมต่อยอดนวัตกรรม พัฒนาเด็กที่ได้รับรางวัลเเละเด็กคนอื่นๆให้ได้รับโอกาสในการพัฒนาตนเองต่อไป ส่วนในวันพรุ่งนี้คณะนักศึกษาจะเดินทางเข้าพบพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเพื่อรับเกียรติบัตรด้วย


นายอภิสิทธิ์ ศรไชย นักเรียนปวช.3 สาขาวิจิตรศิลป์ ตัวเเทนทีมวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี กล่าวว่า ดีใจที่ได้ไปแสดงความสามารถระดับโลกเเละได้รับรางวัลชนะเลิศเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยรางวัลมีความหมายสำหรับทุกคนในทีมที่ตั้งใจฝึกซ้อมนานนับปี นอกจากความสามารถเรื่องของการเดกะสลักเเล้ว ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ ช่วยฝึกสมาธิเเละการเเก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะการฝึกซ้อมกับการเเข่งขันจริงเเตกต่างกัน ที่ไทยต้องทำหิมะเทียมเเต่เมื่อไปจีนเป็นของจริงที่ร่วนซุยกว่า เเต่ก็ผ่านปัญหาทุกอย่างไปได้ด้วยความพยายามเเละตั้งใจ สุดท้ายอยากมอบรางวัลนี้ให้เป็นของขวัญเเด่คนไทยทุกคนด้วย ส่วนในปีหน้า ได้เตรียมฝึกซ้อมให้น้องๆได้มาเเข่งขันต่อไป เพราะพวกตนจบปวช.3เเละเตรียมขึ้นมหาวิทยาลัยเเล้ว 

สำหรับการเเข่งขันครั้งนี้ ประเทศไทยได้ส่งตัวเเทนนักศึกษาเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 3 ทีม ได้แก่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี กับผลงาน”อาชา-ปักษา-มัจฉา-วารี” นำเเนวคิดจากป่าหิมพานต์ คติความเชื่อของคนไทย วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานีกับผลงานการแกะสลักภาพไก่ชนพื้นบ้าน และวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ กับผลงานการแกะสลักภาพสัตว์นำโชค เต่าและมังกร.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง