กรุงเทพฯ 10 ต.ค. – นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า เกษตรกรผู้ประสบปัญหาอุทกภัยช่วงนี้อยู่ในพื้นที่ 5,427 ไร่ ในพื้นที่ 41 จังหวัด ส่วนใหญ่ประสบปัญหาในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงเตรียมพิจารณาประกาศเป็นเขตประสบภัยพิบัติ เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรจากกระทรวงมหาดไทย 1,113 บาทต่อไร่ และเกษตรกรที่ทำประกันภัยพืชผลฤดูกาลผลิตปี 2559 หากปลูกข้าวอยู่ในเขตประกาศประสบภัยพิบัติจะได้รับการชดเชยสินไหมจากบริษัทประกันด้วยเช่นกัน ปัจจุบันเกษตรกรทำประกันภัยพืชผล 27 ล้านไร่ เกษตรกร 1.5 ล้านราย ทำประกันภัยพืชผล ซึ่งมีเกษตรกรทำประกันจำนวนมาก
ทั้งนี้ เนื่องจากจ่ายเบี้ยประกันเพียง 100 บาทต่อไร่ หากเป็นลูกค้า ธ.ก.ส.เกษตรกรจ่ายเบี้ยประกันเพียง 40 บาท ที่เหลือ 60 บาท ธ.ก.ส.ออกค่าเบี้ยประกันแทนเกษตรกร ในปี 2559 จึงมีเกษตรกรทำประกันเพิ่มขึ้นจำนวนมาก สำหรับการจ่ายเงินชดเชยได้ประสานบริษัทประกันแล้ว คาดว่าบางพื้นที่สามารถจ่ายเงินได้ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ดังนั้น เกษตรกรที่มีปัญหาจะได้รับเงินชดเชยทั้งจากรัฐบาลและบริษัทประกันภัย ส่วนปัญหาภาระหนี้สิน ที่ประชุม ครม.ครั้งที่ผ่านมาได้เห็นชอบยืดระยะเวลาการชำระหนี้ ออกไป 2 ปี และลดดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี จึงคาดว่าจะช่วยบรรเทาความความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรได้ และวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เตรียมเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาจ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรประสบปัญหาน้ำท่วมเพิ่ม
ส่วนความคืบหน้าโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2559/2560 ที่รัฐบาลสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรไร่ละ 1,000 บาท รายละไม่เกิน 10ไร่ ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม 2559 ล่าสุด ธ.ก.ส.โอนเงินให้เกษตรกรแล้ว 549,649 ราย จำนวน 4,669,682 ไร่ คิดเป็นเงิน 4,660 ล้านบาท สำหรับเกษตรกรผู้ลงทะเบียนรับสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย แบ่งเป็นเกษตรกรมาลงทะเบียน 2.6 ล้านราย ธ.ก.ส.เตรียมความพร้อมรับข้อมูลจากกรมสรรพากรหลังจากตรวจสอบรายได้ให้เป็นไปตามเงื่อนไข เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือผ่านบัตรรับสวัสดิการจากรัฐผ่านระบบพร้อมเพย์.-สำนักข่าวไทย