ไปรษณีย์ แจ้งวัฒนะ 9 ม.ค. – ธ.ก.ส.พักชำระหนี้เงินต้น-เว้นดอกเบี้ย 1 ปี และให้สินเชื่อใหม่ดอกเบี้ยต่ำ ช่วยฟื้นฟูหลังน้ำลด ให้เกษตรกรลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้กว่า 100,000 ราย พร้อมร่วมมือไปรษณีย์เป็นตัวกลางส่งสินค้าเกษตรถึงผู้ซื้อโดยตรง
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ออกมาตรการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยการพักชำระหนี้เงินต้นของเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. เป็นระยะเวลา 1 ปี และงดเว้นการเก็บอัตราดอกเบี้ย พร้อมทั้งให้พนักงานสาขาลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยการมอบถุงยังชีพที่จำเป็น 80,000 ชุด จำนวน 22 ล้านบาท ซึ่งจากการสำรวจพบว่า มีเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.ในพื้นที่ 8 จังหวัด 66 อำเภอ ได้รับผลกระทบกว่า 100,000 ราย หรือร้อยละ 20 ของจำนวนเกษตรกรในภาคใต้ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกข้าว ปาล์ม และยางพารา อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ธ.ก.ส.จะเข้าไปสำรวจความเสียหาย เพื่อหามาตรการฟื้นฟูการประกอบอาชีพและมาตรการช่วยเหลือ โดยเบื้องต้นจะพิจารณาให้สินเชื่อใหม่ดอกเบี้ยต่ำแก่เกษตรกรในพื้นที่
วันนี้ (9 ม.ค.) ธ.ก.ส. ร่วมกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย และบริษัท ไทยธุรกิจเกษตร ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ต้องการขนส่งและจัดจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร เพื่อกระจายไปยังลูกค้าทั่วประเทศ โดยการใช้ไปรษณีย์ไทยเป็นตัวกลางในการขนส่งสินค้าเกษตรให้กับเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรมีช่องทางในการจัดจำหน่ายได้โดยตรง
ทั้งนี้ ระยะแรกจะมีการนำผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิคุณภาพเกรดส่งออก (A-Rice) ที่สถาบันการเกษตรรับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ ตามโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2558/2559 และ 2559/2560 จากเกษตรกร โดยจะใช้ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศเป็นสถานที่จำหน่ายข้าวและจัดส่งข้าวสารผ่านระบบการขนส่งราคาพิเศษด้วยรถเข็นทรงสูง (Roll Pallet) ที่จะถึงไปรษณีย์ผู้รับซื้อภายใน 5-7 วัน
ทำการ เริ่มต้น 600 บาทต่อรถเข็นทรงสูง หรือโรลพาเลท แต่หากต้องการส่งถึงบ้านผู้ซื้อจะคิดค่าบริการเพิ่ม 100 บาทต่อโรลพาเรท ภายใน 3-5 วันทำการ และหากต้องการจัดส่งข้าวกล่องละ 5 กิโลกรัม คิดบริการเริ่มต้นกิโลกรัมละ 8 บาท หรือราคาเหมากล่องละ 30 บาท โดยระยะแรกจะจำหน่ายข้าวหอมมะลิ A-Rice ขนาด 1 กิโลกรัม ชุดละ 48 บาท ขนาด 5 กิโลกรัม ชุดละ 195 บาท โดยจัดส่งถึงบ้านภายใน 2-3 วันทั้งนี้ คาดว่าปีนี้จะขายข้าว A-RICE ได้มากกว่าปีที่แล้วถึง 2 เท่า หรือประมาณ 5 ล้านถุง ถุงละ 5 กิโลกรัม จากเดิมปี 2559 ขายได้ 2.4 ล้านถุง.-สำนักข่าวไทย