กาฬสินธุ์ 6 ม.ค. – ก.เกษตรฯ ร่วมขับเคลื่อนกาฬสินธุ์โมเดล กระตุ้นรายได้ภาคครัวเรือนพ้นความยากจน พร้อมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ นำร่องระบบน้ำหยดและหลุมพอเพียงสร้างรายได้ยั่งยืนสู้แล้งภาคอีสาน
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสประชุมร่วมกับพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการขับเคลื่อนกาฬสินธุ์โมเดลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่า ได้สั่งการทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ในจังหวัดกาฬสินธุ์ร่วมกันขับเคลื่อนกาฬสินธุ์โมเดล ซึ่งเป็นจังหวัดแรกที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นจังหวัดนำร่องที่จะนำมาใช้เป็นโมเดลแก้ปัญหาความยากจนของประชาชน เพื่อยกระดับได้รายประชาชน ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยปี 2560 เพียง 50,400 บาท/คน/ปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ในปี 2561 หรือ 54,400 บาท/คน/ปี และปี 2561 เพิ่มอีก ร้อยละ 10 เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ต่อหัวอยู่ที่ 56,000 บาท/ปี ตามเป้าหมายรัฐบาล ทั้งการสนับสนุนจากส่วนกลาง และการวิเคราะห์ปัจจัยจากในระดับพื้นที่
ทั้งนี้ ได้มอบหมายรองปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบอัตรากำลังข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ทุกหน่วยงานในจังหวัดกาฬสินธุ์ว่ามีครบถ้วนตามกรอบอัตรากำลังหรือไม่ โดยห้ามข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ไปช่วยราชการที่อื่น โดยเฉพาะเกษตรอำเภอและเกษตรตำบล เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการแก้ไขปัญหาความยากจน และมอบหมายผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ และผู้ตรวจราชการกรมในหน่วยงานกระทรวงเกษตรฯ ลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดกาฬสินธุ์อย่างน้อยเดือนละครั้ง และรายงานผลการติดตามมายังกระทรวงเกษตรฯ ประจำทุกเดือน พร้อมทั้งติดตามผลงานปี 2560 และแผนงานปี 2561 ว่าดำเนินการตามแผนหรือไม่ เช่น โครงการสนับสนุนแหล่งน้ำของกรมชลประทาน
ส่วนการวิเคราะห์ปัจจัยเกี่ยวข้องที่ส่งผลต่อความยากจนของเกษตรกร แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 กลุ่มเกษตรกรที่ถูกเอาเปรียบจากกลุ่มนายทุน กลุ่ม 2 ปัจจัยการดำรงชีวิตของเกษตรกรไม่เหมาะสม และกลุ่ม 3 ชีวิตความเป็นอยู่รายบุคคลและครัวเรือน เมื่อแยกเป็น3 กลุ่มหลักจะสามารถกำหนดแผนงานและให้การสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ ขณะเดียวกันการดำเนินการไม่เพียงมุ่งเน้นเฉพาะแสวงหารายได้เท่านั้น แต่ให้มีการพิจารณาเรื่องการลดรายจ่ายในครัวเรือนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 มาขับเคลื่อนควบคู่กันด้วย รวมทั้งการขยายผลจิตอาสาโครงการพระราชทานในรัชกาลที่ 10 ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเกษตรกรที่ยังทำการเกษตรแบบดั้งเดิมกับเกษตรกรรุ่นใหม่ สมาร์ทฟาร์มเมอร์ หรือเกษตรกรต้นแบบ เข้ามาเป็นผู้ช่วยให้การสนับสนุนการทำงานของเกษตรจังหวัดเกษตรกรตำบล เพื่อร่วมสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ และการพัฒนาการเกษตรต่อสู้ความยากจนอีกด้วย
สำหรับในช่วงบ่ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ พร้อมคณะเดินทางต่อไปยังฝายลำห้วยค้อ บ้านนาโก ต.นาโก อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเยี่ยมแปลงเกษตรทฤษฏีใหม่ด้วยระบบน้ำหยดโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์พื้นที่ได้รับประโยชน์ 40 ไร่ เกษตรกร 13 ครัวเรือน ซึ่งกรมชลประทานดำเนินการร่วมกับมูลนิธิปิดทองให้การสนับสนุนงบประมาณ และตรวจเยี่ยมแปลงเกษตรทฤษฏีใหม่ในรูปแบบหลุมพอเพียงบ้านหนองแมวโพง ต.หนองใหญ่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ กรมชลประทาน และกรมพัฒนาที่ดิน พิจารณาขยายผลระบบการบริหารจัดการน้ำและการส่งเสริมการเกษตรทฤษฏีใหม่ที่ภาคเอกชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมโดยเฉพาะระบบตลาดไปยังพื้นที่ที่มีความเหมาะสมให้แก่เกษตรกรครอบคลุมมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย