ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5

กรุงเทพฯ 4 ม.ค.-ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 61 โตได้ ร้อยละ 4.2-4.5 ซึ่งจะมีเม็ดเงินเข้าระบบถึง 5-7 แสนล้านบาท


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนธันวาคม 2560 พบว่า ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 อยู่ที่ระดับ 79.2 สูงสุดในรอบ 35 เดือนนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2558 ตามภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น จากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในช่วงปลายปี รวมทั้งเริ่มมีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 100 เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะราคาพืชผลทางการเกษตรส่วนใหญ่ ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้กำลังซื้อทั่วไปในต่างจังหวัดยังไม่คล่องตัว 

ทั้งนี้ การปรับตัวที่ดีขึ้นต่อเนื่องของความเชื่อมั่นผู้บริโภค ถึงเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อภาวะเศรษฐกิจหลังจากนี้  เนื่องจากการส่งออก ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี เพราะประเทศผู้ซื้อทั้งในตลาดหลักอย่างสหรัฐอเมริกา และโดยเฉพาะในตะวันออกกลาง จะกลับมาฟื้นตัว ตามทิศทางราคาน้ำมันที่ยังมีแนมโน้มเพิ่มขึ้น จากขณะนี้เฉลี่ย 60-65 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล ส่วนเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเฉลี่ย 32.5 – 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ยังมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการส่งออก เนื่องจากเป็นการแข็งค่าที่สอดคล้องกับภูมิภาค และการท่องเที่ยวที่ยังจะขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาสแรกปีนี้ 


ส่วนความกังวลของคนในระดับฐานราก จากราคาสินค้าเกษตรที่ยังตกต่ำ เชื่อว่า ราคาจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น และเด่นชัดในไตรมาสที่ 2  ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ประกอบกับมีมาตรการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในระยะที่ 2 และโครงการบ้านคนไทยประชารัฐ รวมทั้ง การพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ที่จะทำให้กำลังซื้อฐานรากดีขึ้น 

โดยความเชื่อมั่นต่างๆจะมาจากเม็ดเงินที่จะมาเพิ่มในระบบเศรษฐกิจทั้งจากการส่งออก / การท่องเที่ยว / มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายโครงการของภาครัฐ โดยเฉพาะเม็ดเงินลงทุนเมกกะโปรเจค และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC อีกประมาณ 5 ถึง 7  แสนล้านบาท รวมทั้งความชัดเจนของการเลือกตั้งตามโรดแมป  จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยค่อยๆ ขยายตัวอย่างมีความสมดุล และจะโดดเด่นชัดเจนในปลายไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ยังคงประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ตามเดิมในกรอบร้อยละ 4.2 –  4.5 แต่จะรอประเมินตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี 60 จากการแถลงของสภาพัฒน์ ก่อนจะทบทวน ทิศทางเศรษฐกิจในปีนี้อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร