กกพ.คาดซื้อวีเอสพีพีไฮบิดแข่งราคารุนแรง

กรุงเทพฯ  3 ม.ค.-กกพ.คาดการแข่งขันรับซื้อไฟฟ้าวีเอสพีพี อีก 269 เมกะวัตต์ รุนแรงหลัง แข่งราคาเอสพีพีไฮบิด ตัดราคาถึงร้อยละ 99 ส่วนการรับซื้อโครงการใหม่อื่นๆ ต้องรอแผนพีดีพี ส่วนเม็ดเงินลงทุนพลังงานทดแทน ภาพรวมปีนี้คาดแตะแสนล้านบาท


นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)  เปิดเผยว่า กกพ.เตรียมออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าจาก โครงการสัญญาผลิตไฟฟ้า VSPP SEMI-FIRM จากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กมาก (วีเอสพีพี ) จำนวน 269 เมกะวัตต์ ในช่วงต้นปีนี้ ในขณะนี้รอเพียงให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.)ตรวจสอบความพร้อมของสายส่งไฟฟ้าทั่วประเทศ ให้เสร็จก่อน คาดว่า จะได้ความชัดเจนในเร็วๆนี้ โดยอัตรารับซื้อไฟฟ้าเป้นรูปแบบFiT ที่เป็นการรับซื้อเฉพาะโรงไฟฟ้าใหม่ ประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล ในราคา 4.24 บาทต่อหน่วย,ก๊าซชีวภาพ (น้ำเสีย/ของเสีย) ราคา 3.76 บาทต่อหน่วย และก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน) ราคา 5.34 บาทต่อหน่วย และสามารถใช้ระบบEnergy Storage ร่วมได้ จะมีกลุ่มโรงงานน้ำมันปาล์มในภาคใต้ เข้าร่วมประมูลแข่งขันจำนวนมาก เพราะมีวัตถุดิบเหลือใช้ ทั้งจากทลายปาล์ม และกะลาปาล์ม ที่จัดทำระบบไบโอแก๊สแล้วแต่ยังไม่สามารถขายไฟฟ้าได้ ซึ่งกลุ่มนี้จะมีต้นทุนผลิตไฟฟ้าจากไบโอแก๊สต่ำมาก 

“วีเอสพีพี เซมิ-เฟิร์ม คาดว่าจะได้รับความสนใจในการแข่งขันเป็นจำนวนมาก หลังจากที่เปิดการรับซื้อไฟฟ้าแบบเอสพีพีไฮบิด 300 เมกะวัตต์ มีผู้แข่งขันและราคา ที่ดีมาก  ต่ำสุดถึงร้อยละ 99.9 โดยราคาต่ำสุด 1.85 บาท/หน่วย สูงสุด 3 บาทเศษ/หน่วย เงื่อนไขประมูลก็มีความยืดหยุ่น เช่น  กำหนดให้ช่วงฤดูร้อนประมาณ 4-5 เดือน ต้องเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า 100% ตามสัญญาเฟิร์ม เพื่อช่วยลดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีค)ของประเทศ และช่วงระยะเวลาที่เหลือที่มีการใช้ไฟฟ้าน้อย (ออฟ-พีค) จะเป็นการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าไม่เกินร้อยละ 65 ตามสัญญาผลิตไฟฟ้าไม่เสถียร (non-firm)”นายวีระพลกล่าว


นายวีระพล  กล่าวว่า โครงการรับซื้อไฟฟ้าที่จะเปิดต่อไปในปีนี้ ยังต้องรอความชัดเจนจากภาครัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก และแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ(พีดีพี)ใหม่ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนหลังเดือน มี.ค.นี้ รวมถึงโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากแผงพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา(โซลาร์รูฟท็อป)เสรีด้วย  

กกพ.ประเมินด้วยว่า การลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่มีกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(SCOD) ช่วงปี 2561-2562 จะเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท เช่น โครงการวีเอสพีพี เซมิ-เฟิร์ม กำหนดSCOD ภายในปี2562 ใช้เงินลงทุนราว 50 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ หรือ มีเม็ดเงินสะพัดรวมประมาณ 13,450 ล้านบาท ,โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม ที่อยู่ระหว่างทยอยSCOD ภายในปี2561-2562 อีก 951 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนราว 80 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ หรือ มีเม็ดเงินสะพัดรวมประมาณ 76,080 ล้านบาท และ โครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน(Quick Win) จำนวน 78 เมกะวัตต์ กำหนด SCOD ภายในปี2562 ใช้เงินลงทุนราว 50-70 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ หรือ มีเม็ดเงินสะพัดรวมประมาณ 3,900-5,460 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมโครงการโซลาร์รูฟท็อปเสรี ที่คาดว่าจะเปิดโครงการในปีนี้

 สำหรับปี  2560  มีโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเข้าระบบแล้ว 7,529 เมกะวัตต์ จากผู้ประกอบการ 7,083 ราย แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 189 เมกะวัตต์  โรงไฟฟ้าชีวมวล 3,202 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าชีวภาพ 377 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 25 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังลม 614 เมกะวัตต์และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3,025 เมกะวัตต์-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม