fbpx

ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯแล้ว

กรุงเทพฯ 2 ม.ค. – ประชาชนจำนวนมาก ทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานครแล้ว หลังหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่   ด้าน บขส.  เพิ่มเที่ยวรถไว้บริการประชาชน อีกกว่า 4,000 เที่ยว  มั่นใจไม่มีตกค้างอย่างแน่นอน 


บรรยากาศที่สถานีขนส่งกรุงเทพ หรือ หมอชิต เนืองแน่นไปด้วยผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาทำงาน ส่งผลให้จำนวนรถแท็กซี่ มีไม่เพียงพอ โดยผู้โดยสาร ต้องรอคิวนาน เฉลี่ย  30-45 นาที   ทาง  ขสมก. แก้ปัญหาด้วยการจัดรถประจำทาง   มารับผู้โดยสารออกมาส่งที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต และรถใต้ดินกำแพงเพชรแทน 

สำหรับการจราจรขาเข้าในวันนี้ จากการสอบถาม พนักงานขับรถ บขส.สาย นครราชสีมา- กรุงเทพ   พบว่าใช้เวลามากกว่าปกติ 3 ชั่วโมง โดยออกจากจังหวัด นครราชสีมา เวลา 9 นาฬิกา มาถึงหมอชิตเวลา 15.30 นาที  ผู้โดยสารส่วนหนึ่ง  มีการแบกข้าวสาร เครื่องใช้ส่วนตัวกลับมาด้วย 


ด้านพลตำรวจตรีสุรเชษฐ์  หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อม  เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร  และสุนัขตำรวจ เดินทางมาตรวจสอบความปลอดภัย  และเพิ่มความเชื่อมั่น  ให้กับประชาชนที่เดินทางกลับจากการไปท่องเที่ยว   และกลับภูมิลำเนาตามต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว  ได้บูรณาการกำลังร่วมกับตำรวจพื้นที่และเจ้าหน้าที่ทหาร ในการออกตรวจตราและรักษาความปลอดภัย ในขณะนี้ยังไม่มีเหตุถูกคนร้ายล้วงกระเป๋าหรือถูกลักขโมยแต่อย่างใด รวมถึงยังไม่ได้รับการร้องเรียนกรณีรถแท็กซี่คิดค่าโดยสารเกินราคา หรือไม่ยอมกดมิสเตอร์

      ด้าน  นางสาววิลาวัณย์ สุวรรณะโสภณ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารการเดินรถ บริษัท ขนส่ง  จำกัด กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ทางบริษัท  ได้มีการจัดรถโดยสาร  เพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางกลับจากภูมิลำเนาเพิ่มอีกประมาณ 4,500 เที่ยว  จากปกติ 18,000 เที่ยว โดยเชื่อว่าน่าจะเพียงพอ  ในการรองรับประชาชนที่จะเดินทางกลับมายังกรุงเทพมหานคร  ไม่ให้มีการตกค้างอย่างแน่นอน  นอกจากนี้ตัวเลขของ บขส. พบว่ามีประชาชนใช้บริการรถโดยสารลดน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากหันไปใช้รถยนต์ส่วนตัว สายการบินและรถไฟเป็นจำนวนมาก -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้