กองทัพบก 28 ธ.ค.-แม่ทัพภาคที่ 3 เผยพบยาบ้าเข้าถึงเด็กประถมแล้ว เตรียมร่วมมือ ป.ป.ส. ติดตั้งกล้องวงจรปิดตามแนวชายแดน 100 กิโลเมตร จับตา พร้อมห่วงนักท่องเที่ยวตกเป็นเครื่องมือกลุ่มค้ายา
พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ว่า ไทยกับเมียนมา มีการประสานความร่วมมือกันอย่างจริงจัง ที่ผ่านมามีการจับกุมได้ที่ จ.ตราด และ จ.จันทบุรี เตรียมลำเลียงเข้าพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งตนได้ส่งบัญชีนักค้ายาเสพติด 18 คนให้กับทางการเมียนมาด้วย
“แต่สิ่งที่เป็นห่วงในตอนนี้ หลังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้ตรวจสอบข้อมูลด้านการข่าว พบว่ายังมียาเสพติดอีกหลายร้อยล้านเม็ด ที่ยังจ่อจะเข้าไทย รวมถึงไอซ์อีกจำนวนมาก ซึ่งไอซ์และเฮโรอีน ที่ผ่านมาก็จับได้มาก ถือเป็นสถิติที่น่าตกใจ จากการประเมินพบว่าเป็นความต้องการใช้เงินของชนกลุ่มน้อย ซึ่งปัจจุบันถูกทางการเมียนมากดดัน จึงต้องเร่งระบายยาเสพติด ดังนั้นทหารจึงร่วมกันกับ ป.ป.ส.ติดตั้งกล้องวงจรปิดตามแนวชายแดน 100 กิโลเมตร ตั้งแต่ จ.เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน รวมถึงทุกช่องทางธรรมชาติ” พล.ท.วิจักขฐ์ กล่าว
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวอีกว่า จากการปะทะกันของเจ้าหน้าที่กับขบวนการยาเสพติดหลายครั้ง เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการนำเข้ายาเสพติดล็อตใหญ่ รวมถึงมีคนคุ้มกัน ไม่ได้ซุกซ่อนเหมือนในอดีต เช่น ใส่ถุงปุ๋ยวางท้ายกระบะ จึงขอฝากเตือนประชาชนที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะการข้ามชายแดนไปท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้าน อาจถูกกลุ่มขบวนการยาเสพติดใช้เป็นเครื่องมือ หรืออาจถูกแอบซุกซ่อนยาเสพติดตามรถและกระเป๋าเดินทางเข้ามา จนทำให้ถูกจับกุม
“เพราะทันทีที่มีการฝากของหรือซุกซ่อนสิ่งของมากับเรา เขาจะแจ้งตำรวจทันที คือได้ 2 เด้ง ทั้งปล่อยยา และได้เป็นแหล่งข่าว ตอนนี้จึงเสริมกำลังตามแนวชายแดน เน้นปราบปรามยาเสพติด เพราะปัจจุบันอบายมุขเหล่านี้เข้าถึงระดับเด็กประถมแล้ว โดยเฉพาะยาบ้า แหล่งผลิตยาบ้า เฮโรอีน และไอซ์ อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยไอซ์จะส่งผ่านไทย และต่อไปยังประเทศที่ 3 ส่วนเฮโรอีน และยาบ้า จะเข้าไทยโดยตรง ซึ่งยาบ้าที่ได้รับความนิยมมาจากกลุ่มว้า และมูเซอ ขณะที่ฝิ่น ยังมีการลักลอบปลูกอีกกว่า 2,000 แปลงในภูเขาลึก ซึ่งฝิ่นสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเฮโรอีนได้ แต่ไทยยังไม่มีกระบวนการแปรรูป” พล.ท.วิจักขฐ์ กล่าว
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงการท่องเที่ยวพื้นที่ภาคเหนือช่วงนี้ ว่า อยู่ในช่วงอากาศหนาวเย็น ทำให้ได้รับความนิยมจากประชาชนจำนวนมาก แต่ตนมีความกังวลเรื่องอุบัติเหตุ เพราะส่วนใหญ่ไม่ชำนาญเส้นทาง เนื่องจากเป็นทางขึ้นเขา จึงขอให้ขับขี่อย่างระมัดระวังและเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ ทหารจะร่วมกับฝ่ายป้องกันภัยพลเรือนตั้งจุดบริการประชาชน 185 จุด ในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งนอกจากอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทาง การแนะนำเส้นทางการจราจรแล้ว ยังพร้อมแปรสภาพเป็นด่านตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ ด้วย เพราะถือเป็นนโยบายหลักของผู้บัญชาการทหารบก ในการสกัดกั้นยาเสพติด โดยจุดตรวจทั้งหมดจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคมนี้.-สำนักข่าวไทย
