สมุทรปราการ 27 ธ.ค.-สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แจงกรณีชาวซิมบับเวอาศัยในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้งหมดอยู่ระหว่างประสานเป็นผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ กลับภูมิลำเนาไม่ได้เพราะเกิดสงครามกลางเมือง
พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ในฐานะโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยถึงกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kanaruj Artt Pornsopit โพสต์ว่ามีหนูน้อยชาวซิมบับเวอาศัยอยู่ในสนามบินหลายเดือน โดยกรณีดังกล่าวพบว่า เด็กคนนี้อยู่กับครอบครัวในสนามบินรวม 8 คน เป็นผู้ใหญ่ 4 คนและเด็ก 4 คน ทั้งหมดเป็นบุคคลที่ถูกปฏิเสธ เนื่องจากพบว่าอยู่ไทยเกินระยะเวลา หรือ Overstay ประมาณ 5 เดือน โดยทั้งหมดเข้าไทยมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และมาขอเดินทางออกเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม เมื่อมาถึงจุดตรวจหนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่ ตม. พบว่าวีซ่าหมดอายุ จึงปฏิเสธและขอส่งตัวกลับ
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดมีตั๋วของสายการบินยูเครน เพื่อเดินทางไปยังสเปน แต่เนื่องจากไม่มีวีซ่าเข้าสเปน ประกอบกับไม่ได้ออกตั๋วเดินทาง มีเพียงแค่เอกสารการเช็กอินออนไลน์ สายการบินจึงไม่อนุญาตให้บิน และจะทำการส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง แต่ทั้งหมดไม่ขอกลับ อ้างว่าประเทศมีสงครามกลางเมือง นอกจากนี้ พบว่าครอบครัวได้ประสานไปยังสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ เพื่อลี้ภัยไปประเทศที่ 3 ซึ่งได้มีการแจ้งกลับมาแล้วว่า ทั้งหมดอยู่ในบัญชีผู้ลงทะเบียนขอเป็นผู้ลี้ภัย และรอการนำไปตัวพักคอยที่สำนักงาน ตม.ที่สวนพลู
ส่วนเรื่องอาหาร ทางสายการบินยูเครนเป็นออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด และจะพักอาศัยในห้องกักตัวของ ตม. ซึ่งห้องดังกล่าวเป็นห้องที่ ตม.ใช้กักตัวผู้โดยสารที่ไม่ผ่านการอนุญาตให้เข้าประเทศ.-สำนักข่าวไทย