กรุงเทพฯ 11 ต.ค. – ทั้งรฟท.และทอท.เพิ่มกำลังดูแลความปลอดภัยตามสถานีบริการด้านคมนาคมอย่างเต็มที่
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ได้สั่งการให้ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BEM ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้า MRT สายเฉลิมรัชมงคล สายฉลองรัชธรรม และหน่วยงานด้านความปลอดภัยของ รฟม. ให้ดำเนินการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด หลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และหน่วยงานความมั่นคง ประกาศเตือนการก่อเหตุวินาศกรรมในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ในช่วงวันที่ 25 – 30 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ทาง รฟม.ได้มีการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ,เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสัมภาระผู้โดยสาร ,ตรวจบริเวณโดยรอบสถานีรถไฟฟ้า MRT และ ภายในสถานีรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย เพื่อป้องกันเหตุโดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ ,จัดรถยนต์สายตรวจ ตรวจรอบบริเวณศูนย์ซ่อมบำรุงคลองบางไผ่ และศูนย์ซ่อมบำรุงห้วยขวาง ทุก 1 ชั่วโมง ,จัดกำลังหน่วยทำลายวัตถุระเบิด (EOD.) และสุนัข K-9 ตรวจตราและเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ,เตรียมกำลังหน่วยกู้ภัยพร้อมอุปกรณ์ในที่ตั้งตลอด 24 ชั่วโมง ,ประสานงานเพื่อตรวจสอบข่าวกับหน่วยความมั่นคงและตำรวจสันติบาลตลอดเวลา และเพิ่มการตรวจใต้ท้องรถยนต์และที่เก็บของท้ายรถยนต์ ที่เข้ามาใช้บริการในอาคารและลานจอดรถของ รฟม. ทุกแห่ง
ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่าตามที่ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ให้เฝ้าระวังการก่อวินาศกรรม และการลอบวางระเบิดสถานที่เชิงสัญลักษณ์ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญนั้น ทาง ทอท.ได้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการการรักษาความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันใช้มาตรการการรักษาความปลอดภัย ระดับ 3 และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดการปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัย เฝ้าติดตามด้านการข่าว ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเพิ่มวงรอบของทุกส่วนงานรักษาความปลอดภัย รวมถึงได้ขอความร่วมมือผู้โดยสารและผู้ใช้บริการท่าอากาศยานปฏิบัติตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยาน เพื่อให้การบริการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ
ขณะที่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน ยังคงยืนยันมาตรการรักษาความปลอดภัยที่มีมาก่อนหน้านี้ โดยใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด ได้แก่เพิ่มความเข้มงวด ในการตรวจสอบบุคคลและวัตถุต้องสงสัยภายในสถานีรถไฟฟ้า เพิ่มการตรวจใต้ท้องรถยนต์และท้ายรถยนต์ที่เข้ามาจอดบริเวณที่จอดรถของสถานีรถไฟฟ้า และเตรียมกำลังพลสุนัขตำรวจตรวจวัตถุระเบิด ตลอดการให้บริการรถไฟฟ้า – สำนักข่าวไทย