แรงงานนอกระบบ กำลังสำคัญของประเทศ

กรุงเทพฯ 27 ธ.ค. – ปัญหาของแรงงานนอกระบบมีหลายเรื่อง ทั้งเรื่องค่าจ้างในอัตราต่ำ ไม่มีหลักประกันและสวัสดิการ รวมทั้งเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งแรงงานนอกระบบมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจ ดังนั้น รัฐบาลจึงให้ความสำคัญ เพื่อดึงแรงงานเหล่านี้เข้าสู่ระบบประกันสังคม



แรงงานนอกระบบ ถือเป็นกำลังสำคัญของประเทศ และมีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา แรงงานนอกระบบ หรือผู้มีงานทำที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง หรือไม่มีหลักประกันทางสังคม มีประมาณ 20.8 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 55.2 ของผู้มีงานทำทั้งหมด 37.7 ล้านคน ส่วนอีก 16.9 ล้านคน เป็นแรงงานในระบบ


จากผลสำรวจพบข้อแตกต่างด้านรายได้อย่างเด่นชัด แรงงานนอกระบบได้รับค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือน 6,250 บาท น้อยมากเมื่อเทียบกับแรงงานในระบบที่ได้รับค่าจ้างเฉลี่ยถึงเดือนละ 14,776 บาท โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรม มีค่าจ้างเฉลี่ยเดือนละ 5,210 บาท และแรงงานนอกระบบส่วนใหญ่ทำงานภาคเกษตรกรรม มีระดับการศึกษาค่อนข้างต่ำ และยังไม่ได้รับการคุ้มครองสวัสดิการต่างๆ ไม่มีการประกันตนกับสำนักงานประกันสังคม ส่งผลให้คุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพการทำงานของแรงงานไทยยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม หากแรงงานนอกระบบ รวมถึงผู้ประกอบอาชีพอิสระ สามารถสมัครประกันสังคมภาคสมัครใจ มาตรา 40 ได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณภาพชีวิตและหลักประกันดีขึ้น


ส่วนปัญหาที่ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ ร้อยละ 56 เป็นปัญหาเกี่ยวกับค่าตอบแทน รองลงมา คือ การจ้างงานที่ไม่ต่อเนื่อง ทำงานหนัก ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีวันหยุด และยังมีปัญหาเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยในการทำงาน ทั้งการได้รับสารเคมีที่เป็นพิษ เครื่องมือเครื่องจักรเป็นอันตราย แรงงานนอกระบบ ร้อยละ 26 ที่ต้องทำงานมากกว่า 50 ชั่วโมง/สัปดาห์ ซึ่งมีผลต่อสุขภาพอย่างมาก โดยข้อมูลจากการสำรวจครั้งนี้จะช่วยให้หน่วยงานที่ดูแลด้านแรงงาน สามารถนำไปกำหนดนโยบาย เพื่อสร้างหลักประกันเพิ่มสวัสดิการให้กับแรงงานนอกระบบ 

ภาครัฐต้องการให้แรงงานนอกระบบเข้าสู่ในระบบมากขึ้น เพื่อให้ได้รับความคุ้มครอง มีหลักประกันสังคม จึงได้เพิ่มสวัสดิการเพื่อจูงใจ ทำให้ตั้งแต่ปี 2555-2560 แรงงานนอกระบบลดลงจากร้อยละ 62.7 เหลือร้อยละ 55.2 ซึ่งเมื่อแรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จะมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน การผลิตทางเศรษฐกิจดีขึ้น และยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทยในสายตาต่างชาติต่อการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมด้วย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง