ชาวบ้านกาฬสินธุ์ ร้อง ยธ.ถูกหลอกให้กู้เงินเสียหายกว่า65ล้านบาท

ยธ. 26 ธ.ค.-ชาวบ้านกาฬสินธุ์ ร้องยธ. ถูกกองทุนชุมชนหลอกกู้เงินธนาคารออมสิน ให้ค่าจ้าง 1 หมื่นพร้อมชำระหนี้ให้ เหยื่อหลงกลทั้งหมู่บ้านกว่า 300ราย ถูกเชิดเงิน 65 ล้านบาท 


ที่ศูนย์บริการร่วม กระทรวงยุติธรรม นายอนอง  เหล่านุกูล ตัวแทนชาวบ้านต.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เข้าร้องขอความเป็นธรรมจากกระทรวงยุติธรรม โดยมีนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับเรื่อง


นายอนอง ระบุว่า ชาวบ้านได้รับการชักชวนจากประธานกรรมการสถาบันการเงินชุมชน ม.9 ต.ท่าคันโท อ.ท่าคันโท จ.กาฬสิทธิ์ ให้ไปทำสัญญากู้เงินจากธนาคารออมสิน สาขาท่าคันโท คนละ 2 แสนบาท เพื่อนำเงินมามอบเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับสถาบันการเงินชุมชน โดยตกลงว่ากองทุนจะรับผิดชอบหนี้สินเอง และมีค่าตอบแทนให้กับชาวบ้านรายละ 1 หมื่นบาท ทำให้มีชาวบ้านหลงเชื่อไปกู้เงินมามอบให้กับสถาบันการเงินชุมชน 200-300 คน ซึ่งการทำสัญญาก็เงินกู้ พนักงานธนาคารไม่ได้เรียกหลักทรัพย์ค้ำประกัน มีเพียงสำเนาบัตรประชาชนใบเดียวก็กู้เงินได้คนละ 2 แสนบาท ซึ่งผู้บกพร่องทางสมองหรือคนพิการก็สามารถกู้ได้ โดยธนาคารจะจัดเตรียมผู้ค้ำประกันไว้ให้ บางรายผู้ค้ำกับผู้กู้เงินไม่รู้จักกันมาก่อน มารู้ความจริงเมื่อถูกฟ้องทำให้ชาวบ้านบางรายถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ยอมรับ เพราะอยากได้เงิน 10,000 บาท ถือเป็นจำนวนเงินที่มากสำหรับพวกเขา ซึ่งกองทุนก็ได้มีการชำระเงินกู้ให้จริงปีละ 5 หมื่นบาท แต่ชำระเพียง 3 ปีก็หยุดจ่าย 

นายอนอง กล่าวอีกว่า ชาวบ้านบางครอบครัวชักชวนกันไปกู้เงินทั้งบ้านเป็นหนี้ 5 ราย แต่เมื่อถูกฟ้อง แต่ละคนจะมีหนี้คนละ 6 แสนบาท เป็นหนี้เงินกู้ 2 แสนบาท และหนี้จากการค้ำประกันให้บุคคลอีก 2 ราย หลังถูกฟ้องชาวบ้านได้รวมตัวกันไปแจ้งความดำเนินคดี จนถึงขณะนี้คดียังไม่คืบหน้า แต่ฝ่ายชาวบ้าน 30 ราย กลับถูกฟ้องจนคดีมีคำพิพากษาแล้ว จนต้องมาร้องขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม ขอให้ตรวจสอบการดำเนินคดีอาญาข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยให้โอนมาเป็นคดีในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพราะคดีนี้มีมูลค่าความเสียหายมากว่า 65 ล้านบาท และอาจมีเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินมีส่วนร่วมในการฉ้อโกงประชาชน สำหรับชาวบ้านที่ถูกฟ้องโดยศาลมีคำพิพากษาให้ชำระหนี้แล้ว ขอให้กรมบังคับคดีชะลอการบังคับคดี และขอให้พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรม ช่วยแก้ปัญหาให้กองทุนหมู่บ้านแห่งชาติรับผิดชอบหนี้ธนาคารออมสินแทนชาวบ้าน เพราะถูกหลอกให้มากู้เงินและส่งมอบเงินกู้


ด้านนายธวัชชัย กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมจะเข้าไปตรวจสอบกับพนักงานสอบสวนที่รับแจ้งความ โดยดูว่ามีการเชื่อมโยงกับกองทุนชุมชนอย่างไร และธนาคารที่ปล่อยกู้มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ พร้อมช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี โดยในส่วนนี้หากเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนจริงก็จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าไปตรวจสอบ สำหรับคดีที่ศาลได้พิพากษาแล้วและกำลังจะถูกบังคับคดี ซึ่งชาวบ้านขอให้ช่วยชะลอการบังคับคดีนั้น จะเข้าไปเจรจากับทางกรมบังคับคดีและธนาคาร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ