ตร.ชุมพรชี้แจงไม่มีการถอนเงิน หลัง “หมอปอ” เสียชีวิต

ชุมพร 26 ธ.ค. – นายเชาว์ และนางสมศรี ครัวจัตุรัส ของ น.ส.นนทิญา หรือ หมอปอ ครัวจัตุรัส เดินทางมาขอพบ พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.ชุมพร เพื่อซักถามกรณีทรัพย์สินของลูกสาว โดยเฉพาะทองรูปพรรณ น้ำหนัก 10 บาท ซึ่งเป็นของหมั้นที่นายรณชัย หรือ เก่ง ปานชาติ นำมาหมั้น น.ส.นนทิญา หรือ หมอปอ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมทั้งเงินในบัญชีของลูกสาว และบัญชีที่ทั้งสองคนฝากร่วมกันซึ่งคาดว่ามีการถอนออกไป อีกทั้งก่อนตายหมอปอ บอกว่าเอกสารและข้อมูลสำคัญได้บันทึกอยู่ในโทรศัพท์มือถือของหมอปอ และขณะนี้โทรศัพท์ก็ยังหาไม่เจอ ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามหาความกระจ่างให้กับครอบครัวด้วย 


พล.ต.ต.สนธิชัย กล่าวกับพ่อแม่และญาติของหมอปอว่า วันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมเก็บหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียดทั้งในที่เกิดเหตุและบ้านผู้ต้อหาที่เดินทางไปตรวจค้น ไม่พบทรัพย์สินทั้งเงินที่สูญหายไปนับแสนและทองรูปพรรณน้ำหนัก 10 บาทที่หายไป มีแต่สมุดบัญชีแต่ละธนาคาร จำนวนหลายเล่มหลายธนาคาร พร้อมบัตรเอทีเอ็ม และได้มอบให้นายบำรุง ครัวจัตุรัส ไปเก็บไว้ตามที่นายบำรุงร้องขอ 

สำหรับโทรศัพท์มือถือที่หายไป พล.ต.ต.สนธิชัย ชี้แจงว่า โทรศัพท์มือถือไม่ได้หายไปไหน แต่ตำรวจเจ้าของคดีได้เก็บรักษาไว้ทั้งของหมอปอ นายเก่ง และกิ๊กสาวของนายเก่ง เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน 


ส่วนที่พ่อแม่คาใจเรื่องเอกสารและข้อมูลสำคัญอยู่ในมือถือนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่ามีอะไรอย่างไรบ้างที่เป็นประโยชน์ในการแกะรอยหาทรัพย์สินหรือเงินทองว่าทั้งสองคนได้เก็บหรือนำไปไว้ที่ไหน และที่ทางครอบครัวหมอปอได้ให้ข่าวว่ามีการถอนเงินออกไปหลังจากหมอปอเสียชีวิตไปแล้วนั้น คาดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มอยู่ที่พี่ชายของหมอปอ ส่วนประเด็นการโอนผ่านโทรศัพท์มือถือยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะโทรศัพท์มือถือทั้งสามเครื่องของหมอปอ นายเก่ง และนฤมล กิ๊กสาว อยู่ที่ตำรวจ 

ทั้งนี้ ขอให้ครอบครัวของหมอปอนำหลักฐานเอกสารที่เป็นประโยชน์มามอบให้กับตำรวจ เพราะตำรวจจะได้ตรวจสอบหารายละเอียดเส้นทางทรัพย์สิน เพื่อสร้างความกระจ่างให้ทุกฝ่าย ยืนยันว่าตำรวจจะทำให้ทุกอย่างชัดเจน ให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ไม่ว่าทางครอบครัวผู้สูญเสียหรือทางครอบครัวผู้ต้องหาทั้งสองคน

ด้านนายวินัย ปานชาติ พ่อของนายเก่ง เปิดเผยว่า หลังจากสื่อต่างๆ นำเสนอข่าวทั้งโลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์ต่อว่าทั้งลูกชายและครอบครัวอย่างรุนแรง ทำให้รู้สึกเครียดมากจนไม่อยากดูข่าว  อยากวิงวอนขอความเห็นใจกับสื่อและสังคมหยุดโจมตีซ้ำเติมครอบครัวของตนเอง เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่าอยากจะไปเคารพศพของน้องปอ เพื่อแสดงความเสียใจ และขอโทษครอบครัวน้องปอด้วยตัวเอง แต่กังวลเรื่องความปลอดภัย ส่วนเรื่องเงินสินสอดไม่ขอพูดถึง เพราะไม่อยากให้มีปัญหาขัดแย้งกัน. – สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ