ฝากขัง “กิ๊กสาว” ร่วมฆ่า “หมอปอ”

ชุมพร 23 ธ.ค.60- คดีนายเก่ง บุกเข้าไปยิง หมอปอ ว่าที่เจ้าสาว ก่อนแต่งงานเพียง 5 วัน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้รวบ “กิ๊กสาว” ของนายเก่ง พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาหนัก และวันนี้เตรียมคุมตัวฝากขัง


เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้ควบคุมตัวนางสาวนฤมล ช่วยสมบัติ ผู้ต้องหาร่วมกับนายรณชัย หรือ เก่ง ปานชาติ ฆ่าผู้อื่น (หมอปอ) โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ส่งตัวไปยังศาลจังหวัดชุมพร เพื่อฝากขัง ผลัดแรก หลังจากที่จับกุมตัวได้เมื่อวานที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำมาสอบสวนปากคำเพิ่มเติมก่อนจะสรุปสำนวนส่งศาลในวันนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะตำรวจควบคุมตัวออกจากห้องขังบนโรงพักเพื่อขึ้นรถยนต์ที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ สีหน้าของ น.ส.นฤมล ดูเรียบเฉย โดยเมื่อคืนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าดูตลอดเกรงจะคิดสั้น

กรณีนายรณชัย ปานชาติ หรือ เก่ง พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหลังสวน ก่อเหตุอุกอาจสวมหมวกไอ้โม่ง ใช้ปืนลูกซองสั้นบุกเข้าไปยิง นางสาวนนทิญา ครัวจัตุรัส หรือ หมอปอ อายุ 25 ปี เจ้าพนักงานฑัณตสาธารณสุข รพ.สต.สลุย ซึ่งเป็นว่าที่เจ้าสาวเสียชีวิตในบ้านพักข้าราชการ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร กลางดึกวันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม  และต่อมาตำรวจจับกุมตัวนายเก่งได้ และเจ้าตัวรับสารภาพเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ขณะที่ “กิ๊กสาว” ของนายเก่ง นางสาวนฤมล ช่วยสมบัติ หรือสาวที่ตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันตัวไว้เป็นพยาน แต่ล่าสุดพยานหลักฐานสาวไปถึงตัวของ “กิ๊กสาว” ว่าร่วมรู้เห็นด้วย จึงมีการขอศาลออกหมายจับ พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาหนัก คือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดนเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาไปในเมือง ในหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ขณะที่การสอบสวนนางสาวนฤมล “กิ๊กสาว” ของผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า คบหาสนิทสนมกับนายเก่ง ก่อนเกิดเหตุนายเก่งได้ให้เงินตนเอง 7,000 บาท ไปซื้อหาอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก มาจากเพื่อนในหมู่บ้าน โดยอ้างว่ามีศัตรูจะไว้ใช้ป้องกันตัว และในวันที่ 18 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ นายเก่งให้นางสาวนฤมลขับรถจากอำเภอหลังสวนไปส่งที่หน้า รพ.สต.สลุย อำเภอท่าแซะ โดยบอกว่าจะไปเคลียร์ปัญหาส่วนตัวกับหมอปอ เมื่อส่งเสร็จ นางสาวนฤมลก็ขับรถออกไปทำธุระ จากนั้นหลังเที่ยงคืนนายเก่งได้โทรศัพท์ให้เข้าไปรับกลับหอพักที่อำเภอหลังสวน ตนเองก็ได้ขับรถไปตามถนนสายรองในหมู่บ้านโดยตลอดทางนายเก่งได้ให้ตนจอดรถนำสิ่งของบางอย่างทิ้งในลำคลองและป่าละเมาะหลายจุด โดยไม่คิดว่านายเก่งจะไปฆ่าหมอปอตาย 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพฤติกรรมตั้งแต่การจัดหาซื้ออาวุธปืนเถื่อน การเตรียมการ กระทั่งมาร่วมกันก่อเหตุฆ่าหมอปอและเส้นทางการขับรถหลบหนี ซึ่งระหว่างทางได้นำของกลางไปทิ้งไว้หลายจุด และตลอดเส้นทางทั้งขามาและกลับเจ้าหน้าที่มีหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดหลายจุด ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญของพฤติกรรมที่กระทำร่วมกันก่อเหตุ และนำไปสู่การขอศาลจังหวัดชุมพรออกหมายจับนางสาวนฤมล 

หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนางสาวนฤมลไปควบคุมที่ สภ.สลุย เพื่อสอบปากคำเพิ่ม และในวันนี้ จะนำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดชุมพรฝากขังระหว่างสอบสวนดำเนินคดีต่อไป


ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ ตำรวจ สภ.สลุย ได้คุมตัว นายเก่ง ไปขออำนาจศาลจังหวัดชุมพรฝากขัง ซึ่งระหว่างออกจากโรงพักผู้สื่อข่าวพยามสอบถามถึงมูลเหตุจูงใจนายเก่งตอบเพียงสั้นๆ ว่าทุกอย่างเป็นข่าวไปหมดแล้ว และขอโทษ ก่อนรีบเดินขึ้นรถยนต์สายตรวจที่ตำรวจจอดรออยู่พาไปฝากขังผลัดแรก 

ส่วนอาวุธสังหาร มีการนำชุดประดาน้ำไปดำหาอาวุธปืนของกลางตามที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพนำไปทิ้งที่สะพานคลองคตศอก ถนนอ่างทอง-บ้านกลาง หมู่ที่ 14 ตำบลหงษ์เจริญ อำเภอท่าแซะ ห่างจากจุดก่อเหตุฆาตกรรมหมอปอ 15 กิโลเมตร การค้นหาถือว่าประสบความสำเร็จ ตำรวจพบปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ อยู่ในหมวกไอ้โม่งไหมพรมสีดำ ที่ถูกทิ้งอยู่ในพงหญ้าริมตลิ่งข้างลำคลองพร้อมกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ที่ยังไม่ได้ยิงจำนวน 1 นัด จึงเก็บรวมรวมไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีส่งฟ้องต่อศาลต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]