สโมสรทหารบก 22 ธ.ค.- คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่หวั่นสนช. ส่อรีเซ็ต ป.ป.ช. เปิดทางให้คนที่มีคุณสมบัติตามรธน.ใหม่ทำหน้าที่แทน ปัดตอบหนังสือชี้แจงคดีแจงนาฬิกาหรูประวิตร ยันเร่งสางคดีท้องถิ่น คาดคดีขนคนเชียร์บอลทีมบุรีรัมย์ รู้ผลชัดต้นปีหน้า
พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะรีเซ็ตคณะกรรมการป.ป.ช.ว่า อยู่ที่การพิจารณาของสนช.ที่จะต้องพิจารณาไปตามกฎหมาย ซึ่งป.ป.ช.ไม่ได้มีปัญหา หากให้ทำหน้าที่ต่อก็พร้อม แต่หากไม่ให้ทำหน้าที่ต่อก็จะมีคนเข้ามาทำหน้าที่แทน องค์กรยังทำหน้าที่อยู่ต่อไป ตนเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ก็ต้องทำให้ดีที่สุด และในอนาคตหากไม่ได้ทำหน้าที่ต่อก็จะต้องให้คนอื่นที่ได้รับการคัดสรรเข้ามาตามรัฐธรรมนูญใหม่ทำหน้าที่แทน ตนไม่ได้รู้สึกท้อในการทำหน้าที่นี้เพราะรับอาสาเข้ามาทำหน้าที่แล้ว โดยมีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งในขณะนั้นเห็นว่าตนมีคุณสมบัติที่จะได้รับการคัดสรร แต่มาตอนนี้เมื่อเห็นว่าขาดคุณสมบัติก็ถือว่าจบ ไม่มีปัญหา ทุกคนก็ทำเพื่อประเทศชาติ
ส่วนกรณีที่จะมีการเพิ่มอำนาจให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ในการดักฟังโทรศัพท์ ของผู้ที่ถูกร้องและเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับการทำทุจริตนั้น พล.อ.บุณยวัจน์ กล่าวว่า ประเด็นนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของ สนช.ให้เป็นหน้าที่สนช.ในการอภิปราย ไม่ขอออกความเห็นอยู่ที่ดุลพินิจของสนช. แต่สมาชิกสนช.คงทราบดีว่าอะไรเหมาะสมหรือไม่ เพราะอยู่กันด้วยส่วนรวม และที่ผ่านมาการทำงานของป.ป.ช.ก็ดีอยู่แล้ว ส่วนจะกลายเป็นประเด็นทางการเมืองหรือไม่นั้นก็ไม่ขอออกความเห็นเช่นกัน
พล.อ.บุณยวัจน์ กล่าวถึงประเด็นการชี้แจงบัญชีหนี้สินและทรัพย์สิน ในรายการที่มีมูลค่าเกิน 2 แสนบาทของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ยังไม่ทราบว่าหนังสือชี้แจงส่งมาที่ป.ป.ช.แล้วหรือยัง เพราะมีคณะกรรมการตรวจสอบการแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอยู่แล้ว ซึ่งตามปกติ จะต้องมีการยื่นก่อนและหลังการดำรงตำแหน่ง แต่ระหว่างการดำรงตำแหน่งจะไม่มีการยื่นบัญชีทรัพย์สิน และเมื่อมีประเด็นเข้ามาก็จะต้องให้เจ้าตัวชี้แจง ตนเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาเพราะพล.อ.ประวิตรเป็นผู้ใหญ่ทราบว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
ส่วนคดีการทุจริตท้องถิ่นใหญ่ ๆ ที่จะมีการชี้มูลในหลายคดีนั้น พล.อ.บุณยวัจน์ กล่าวว่าจะมีความชัดเจนในต้นปีหน้า ส่วนรายละเอียดคดียังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เพราะอยู่ระหว่างการไต่สวน แต่ที่สำคัญจะต้องให้ความยุติธรรมตรงไปตรงมา ตามกฎหมาย จะไม่มีการยึดจากกระแสสังคมอย่างแน่นอนเพราะจะทำให้เกิดความเสียหาย ทุกอย่างอยู่ที่เอกสารหลักฐานแต่ในระหว่างการสอบสวนได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากท้องถิ่น
สำหรับเรื่องร้องเรียน นางกรุณา ชิดชอบ ภรรยานายเนวิน ชิดชอบ อดีตหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และผู้จัดการทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กรณีขนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเข้าไปชมการแข่งขันฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดนั้น พล.อ.บุณยวัจน์ กล่าวว่า ได้รับความร่วมมือในการให้ข้อมูลเป็นอย่างดีและอยู่ในระหว่างการไต่สวน และน่าจะได้คำตอบในต้นปีหน้า ป.ป.ช.ให้ความยุติธรรมกับทุกคนไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นใครก็ตาม ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม.-สำนักข่าวไทย