กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – ป.ป.ช. เตรียมออกแผนระยะยาว ปราบปรามโรงเรียนรับแป๊ะเจี๊ยะ ส่งป.ป.ช.จังหวัดเตือนทุกโรงเรียนให้ระวัง เบื้องต้นยังไม่มีเบาะแสเรียกรับเพิ่ม
พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการตรวจสอบ และ ปราบปรามการรับแปะเจี๊ยะในโรงเรียน ว่าขณะนี้ ได้ออกแผนระยะสั้น เร่งด่วนแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการ ออกแผนปราบปรามในระยะยาวต่อไป ซึ่งตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบฯ ได้ประชุมเพื่อกำหนดให้แผนการปราบปรามระยะยาว ที่ต้องทำให้ ทุกโรงเรียนมีมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ให้มีความสมบูรณ์พร้อมทุกด้าน นักเรียนจะได้เรียนอย่างมีความสุข ซึ่งมีหลายโรงเรียนตื่นตัวมากกับการดำเนินการปราบปรามเรื่องนี้ และป.ป.ช. ได้ส่งป.ป.ช.จังหวัดไปเตือนทุกโรงเรียนให้ระมัดระวัง แต่เบื้องต้น ยังไม่มี ใครแจ้งเบาะแส โรงเรียนที่มีการเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะเพิ่มเติมเข้ามา สำหรับแผนระยะยาว เมื่อมีการรวบรวมข้อมูลเสร็จแล้ว จะนำให้ กรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่พิจารณาแผนจากนั้นจะส่งให้คณะรัฐมนตรี อนุมัติ เพื่อสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามแผนคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน
ส่วนเรื่องเงินทอนวัด ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ส่งสำนวนมาแล้วนั้น พล.อ.บุณยวัจน์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประมวลข้อมูลทั้งหมด ก่อนจะเข้าสู่การพิจารณาของ กรรมการชุดใหญ่เร็ว ๆ นี้ ไม่มีใคร กดดันการทำงานของ กรรมการ ป.ป.ช. ได้ การลงมติทุกครั้งกรรมการทุกคนใช้ดุลยพินิจพิจารณาอย่างดี และเร่งดำเนินการ พิจารณาทุกคดี ทำงานอย่างละเอียดรอบ เพื่อให้ทุกเรื่อง ที่ดำเนินการอยู่เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.บุณยวัจน์ ได้เป็นประธานมอบรางวัลการประกวดแผนจัดการเรียนรู้การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระดับอาชีวศึกษา และเปิดเผยว่า หลังจากนี้ ป.ป.ช.จะนำแผนที่ได้รับรางวัลไปประมวลเป็นแผนการเรียนรู้กลาง และนำไปบังคับใช้กับการเรียนการสอนของอาชีวศึกษาทั่วประเทศ โดยจะใช้วิธีการสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริตไปในทุกวิชาการเรียนการสอนเพื่อปลูกฝังให้เด็กรุ่นใหม่ไม่ทนต่อการทุจริต โดย ป.ป.ช.จะคอยประเมินผลอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรให้ทันต่อสถานการณ์ต่อไป โดยในอนาคต ป.ป.ช.จะขยายหลักสูตรให้ครอบคลุมไปถึงสายสามัญ และอุดมศึกษา และจะใช้วิธีประกวดแผนการเรียนรู้เพื่อให้สถานศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม.-สำนักข่าวไทย