อสมท 21 ธ.ค.-ผบ.เรือนจำธัญบุรีเผย นช.เอ เริ่มทำร้ายก่อน พร้อมตั้งตัวเป็นผู้มีอิทธิพล พร้อมให้ญาติตรวจสอบกล้องวงจรปิด และตั้งกรรมการสอบนักโทษ-ผู้คุม คาดสัปดาห์หน้ารู้ผล
นายเกียรติกร ปัทมทัตต์ ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอธัญบุรี กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่วันนี้ญาติของ นช.กฤตติกร หรือ นช.เอ อายุ 34 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม(ยธ.)เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีผู้คุมเรือนจำอำเภอธัญญบุรี ทำร้ายร่างกาย นช.กฤตติกร หรือ นช.เอ จน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ว่า นช.กฤตติกร หรือ นช.เอ เป็นผู้ต้องขังคดีพยายามฆ่า มีโทษจำคุก 6 ปีและถูกคุมขังมาแล้ว 2 ปี มีพฤติกรรมตั้งตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในเรือนจำและมีความพยายามตั้งกลุ่มในเรือนจำ โดยตั้งชื่อ “กลุ่มบ้านรังสิต” ที่ผ่านมาผู้คุมเรือนจำ และเจ้าหน้าที่เคยชี้แจงกับผู้ต้องขังไปแล้วว่าเรือนจำเป็นสถานที่ราชการ ไม่สามารถจะมาตั้งบ้าน หรือกลุ่มแก๊งในเรือนจำได้ ซึ่งเรือนจำแห่งนี้มีผู้ต้องขังประมาณ 600 คน มีผู้คุมเพียง 5 คน
สำหรับเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในเรือนจำเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.20 น. โดยมีนักโทษ 2 คน มีปัญหาทะเลาะวิวาทกันจากสาเหตุการยืมของกินและของใช้ แต่ฝ่ายที่ยืมไม่ยอมใช้คืน ดังนั้น นช.กฤตติกร ซึ่งรู้จักกับนักโทษฝ่ายให้ยืมจึงเข้าไปทำร้ายร่างกายนักโทษคนดังกล่าว และผู้คุมเรือนจำเห็นจึงเข้าไประงับเหตุทะเลาะวิวาทตามอำนาจหน้าที่ ไม่ได้มีการกระทำที่เกินกว่าเหตุ โดยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก็พบว่า นช.กฤตติกร เป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายนักโทษก่อนจริง
อย่างไรก็ตามหากญาติของ นช.กฤตติกร มาร้องขอให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเรือนจำฯ ก็พร้อมให้ดูภาพจากกล้องวงจรปิด และหลักฐานทั้งหมดที่มี
ส่วนการที่ญาติระบุว่า นช.กฤตติกร เป็นนักโทษชี้นดีนั้น นายเกียรติกร อธิบายว่า เรือนจำจัดลำดับชั้นนักโทษ 6 ชั้นแรกเข้าผู้ต้องขังจะเป็นนักโทษชั้นกลาง จากนั้นจะประเมินทุก 6 เดือนเพื่อเลื่อนขั้นเป็นนักโทษชั้นดี ชั้นดีมาก และชั้นเยี่ยมหากกระทำความผิดวินัยในเรือนจำจะถูกปรับชั้นเป็นนักโทษชั้นเลว และเลวมาก กรณี นช.กฤตติกร เพิ่งได้รับการปรับเลื่อนชั้นจากชั้นกลางขึ้นเป็นนักโทษชั้นดี
ผบ.เรือนจำอำเภอธัญญบุรี กล่าวอีกว่า ภายหลังเกิดเหตุทางเรือนจำได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยตรวจสอบทั้งนักโทษ และเจ้าหน้าที่เรือนจำ ในกรณีเจ้าหน้าที่กระทำเกินกว่าเหตุก็จะต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัย ส่วน นช.กฤตติกร เบื้องต้นอาจต้องย้ายแดนคุมขังหากกยังพบพฤติการณ์วางตัวเป็นผู้มีอิทธิพล อาจจะต้องถูกย้ายไปคุมขังที่เรือนจำความมั่นสูง ซึ่งในเรื่องนี้หากพิสูจน์แล้วพบว่า เรือนจำไม่ได้ผิดตามที่กล่าวหา ก็อาจมีการฟ้องร้องกลับกับทางญาติ ฐานทำให้เสียชื่อเสียง ส่วนนักโทษที่ถูกทำร้ายก็สามารถฟ้องดำเนินคดีอาญาเพื่อเพิ่มโทษจำคุก นช.กฤตติกรอีก 1 ข้อหา คือทำร้ายร่างกายผู้อื่น คาดสัปดาห์หน้าคณะกรรมการฯจะสรุปข้อเท็จจริงทั้งหมดได้
“เหตุการณ์ทะเลาะวาทในเรือนจำที่ถูกนำมาขยายเป็นข่าวใหญ่โตในครั้งนี้ เพราะนช.กฤตติกร เป็นลูกของเลขาฯมูลนิธิช่วยเหลือผู้หญิงชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งเรือนจำจะปล่อยให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นไม่ได้ ทั้งตั้งตนเป็นขาใหญ่ในคุกหรือทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพล หากเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกชาวบ้านธรรมจะทำอย่างไร นักโทษก็ต้องได้รับความยุติธรรมเท่าเทียมกัน” นายเกียรติกร กล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ผบ.เรือนจำธัญบุรี รายงานข้อเท็จจริงมายังกรมราชทัณฑ์ยืนยันว่าจะตรวจสอบและดำเนินการตามข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งเจ้าหน้าที่และนักโทษ.-สำนักข่าวไทย