กฟน. Reuse เสาไฟฟ้าใช้ป้องกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน

กรุงเทพฯ 21 ธ ค. – กฟน .ลงพื้นที่ติดตามงานปักเสาไฟฟ้าที่รื้อถอนและไม่ใช้งานแล้วจากโครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน เพื่อนำมาป้องกันและแก้ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง ณ ชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน


นายประสงค์ คุ้มประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน กฟน. ได้ดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำสายสื่อสารลงใต้ดิน โดยล่าสุดได้ดำเนินโครงการบนถนนพหลโยธิน พญาไท และสุขุมวิท ทำให้มีการรื้อถอนเสาไฟฟ้า และดำเนินการส่งมอบให้กับ กทม. แล้วจำนวนทั้งสิ้น 1,344 ต้น เพื่อใช้สนับสนุนการดำเนินโครงการปลูกป่าในใจคนตามศาสตร์พระราชาของกรุงเทพมหานคร ในการสร้างแนวป้องกันคลื่นช่วยฟื้นฟูและป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลกรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน เป็นระยะทางประมาณ 4.7 กิโลเมตร 


สำหรับวิธีการป้องกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งทะเลที่ผ่านมาใช้การปักด้วยไม้ไผ่ทำให้ย่อยสลายได้ง่าย จึงมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี ขณะที่การใช้เสาไฟฟ้าของ กฟน. ซึ่งเป็นแท่งคอนกรีตนั้นจะมีอายุการใช้งานนานประมาณ 30 ปี อีกทั้ง ยังมีความแข็งแรงทนทาน และมีความยืดหยุ่นจากโครงสร้างลวดเหล็กภายในเสาไฟฟ้า ทำให้สามารถรับแรงดัดได้มากถึง 4.5 ตันเมตร หรือหักโค้งได้ประมาณ 7-8 เซนติเมตร โดยจะดำเนินการด้วยวิธีปักเสาเป็นแนว 4 แถว มีระยะห่างระหว่างเสาและแถวประมาณ 70 ซม. คิดเป็นจำนวนเสาไฟฟ้าที่ใช้ประมาณ 3,600 ต้น ต่อความยาว 1 กิโลเมตร

 ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กฟน. ได้มอบเสาไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานแล้วให้กับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่ขอความร่วมมือนำไปใช้งานเพื่อชุมชนและสังคม เช่น จังหวัดสมุทรปราการ ได้นำไปใช้ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งที่บริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ รวมถึงยังมีหน่วยงานชุมชนในพื้นที่ให้บริการของ กฟน. ต่างๆ ขอนำเสาไฟฟ้าไปใช้ทำฝายชะลอน้ำ สะพานข้ามคลองในชุมชน อีกด้วย อย่างไรก็ตาม กฟน. มีการดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินอีกรวมระยะทาง 214.6 กิโลเมตร มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2564 ซึ่ง กฟน. ยังคงมีโครงการมอบเสาไฟฟ้าที่รื้อถอนให้กับ กทม. ใช้ป้องกันปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยฟื้นฟูและป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ลดผลกระทบที่อาจเกิดกับประชาชนริมชายฝั่งเป็นจำนวนมากทำให้เสาไฟฟ้าที่รื้อถอนไม่ใช้งานแล้วในโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินสร้างมหานครไร้สาย Smart Metro ของ กฟน. ไม่สูญเปล่าใช้เป็นประโยชน์แก่ประชาชนได้ต่อไป-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง