สื่อทำข่าวนายกฯ ระทึก ลิฟท์ขัดข้อง ติดกว่า 50 นาที

โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน 20 ธ.ค.- สื่อมวลชนทำข่าวนายกฯ ระทึกลิฟท์ขัดข้องติดกว่า 50 นาที โวยช่วยเหลือช้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 07.58 น. คณะสื่อมวลชนจำนวน 9 คนประกอบด้วยนักข่าวหนังสือพิมพ์ ช่างภาพโทรทัศน์ และผู้ช่วยช่างภาพ  ที่ติดตามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาทำข่าว นางฟ่าง หลิว (Dr. Fang Liu) เลขาธิการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO) เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ได้ขึ้นลิฟท์ ที่อยู่ในชั้นลานจอดรถ เพื่อมายังสถานที่จัดงานชั้น 2 แต่ระหว่างนั้นลิฟท์ขัดข้องทำให้ทั้ง 9 คนต้องติดอยู่ในลิฟท์ ทำให้บางคนมีอาการวิงเวียนศีรษะ หายใจไม่ออก เนื่องจากพื้นที่แคบและอากาศน้อย แม้สื่อมวลชนที่อยู่ภายนอกจะประสานเจ้าหน้าที่เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือก็ตาม กระทั่งเวลาผ่านประมาณ 50 นาทีเจ้าหน้าที่จึงงัดประตูลิฟท์ช่วยออกมาได้

เมื่อเวลา 08.30 น.ที่ห้อง Riverside 4 ชั้น 2 โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ถนนเจริญกรุงซอย 30 เขตบางรัก กรุงเทพฯ Dr. Fang Liu เลขาธิการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  จากนั้นเวลา 09.00 น. ที่ห้อง Ballroom 2-3 โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ถนนเจริญกรุงซอย 30 เขตบางรัก กรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดการประชุมระดับภูมิภาคขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) 


อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเริ่มพิธี ได้เกิดเหตุระทึกขึ้นที่โรงแรมดังกล่าวโดยกลุ่มผู้สื่อข่าว ช่างภาพ และผู้ร่วมงาน จำนวน 9 คน ซึ่งได้ขึ้นลิฟท์มาจากชั้นลานจอดรถ เพื่อขึ้นมายังชั้น 2 ของโรงแรม ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานของโรงแรมได้เกิดลิฟท์ค้างและตกอย่างกะทันหัน โดยลิฟท์ได้ตกลงมายังชั้น จี (G) อย่างแรงสร้างความตกใจ ให้กับผู้ประสบเหตุ เมื่อตั้งสติได้ ก็ได้กดปุ่มติดต่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งพนักงานโรงแรมได้สอบถาม ถึงจำนวนผู้ที่อยู่ในลิฟท์ และบริเวณชั้นที่ขึ้นโชว์อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมบอกว่าจะเร่งประสานให้เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ แต่ปรากฎว่า เวลาผ่านไป 10 นาทีแรก ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดเข้ามาช่วย จึงได้ขอความช่วยเหลือไปอีกครั้งก็ได้รับคำตอบว่า แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างแล้ว จากนั้นไฟในจอมอนิเตอร์ของลิฟท์ก็ดับลง อากาศภายในลิฟท์เริ่มน้อยลง ทำให้นายวัฒนะ เจียมพุดซา ผู้ช่วยผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเนชั่น และนายชยพัทธ์ วิรัชกุล อายุ 61 ปี พนักงานขับรถหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เริ่มมีอาการเวียนศีรษะ แล้วทรุดลงนั่งกับพื้น เพื่อนจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น นำยาดมไปบรรเทา

จนเวลาผ่านไป 20 นาที ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ผู้ประสบเหตุจึงได้โทร พยายามติดต่อมายังเพื่อนผู้สื่อข่าวด้านนอก ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่องัดลิฟท์ ออกเบื้องต้นเพื่อให้มีอากาศหายใจ จนผ่านไปอีก 20 นาที  หลังจากที่กลุ่มผู้สื่อข่าวและเพื่อนช่างภาพได้ไปกดดันให้เจ้าหน้าที่เร่งงัดประตูลิฟท์ออก เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างถึงยอมงัดประตูลิฟท์ออก ซึ่งคาดว่าที่ไม่ยอมงัดลิฟท์ตั้งแต่แรก เพราะเกรงลิฟท์จะเสียหาย และไม่ได้รับคำสั่งอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาจึงพยายามใช้ระบบคอมพิวเตอร์รีเซ็ตแทน ทั้งนี้เมื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุออกมาได้เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาขอโทษ ในความไม่สะดวก และแก้ไขช้า โดยระบุสั้นๆเพียงว่า หากท่านใดรู้สึกมีอาการไม่ดีเรามีพยาบาลดูแล  

ขณะที่ผู้สื่อข่าวซึ่งอยู่ด้านนอกพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลทำเนียบรัฐบาล หลังทราบว่าเพื่อนร่วมงานยังติดอยู่ในลิฟท์ จึงพยายามช่วยเหลือเพราะเวลาผ่านไปนานมากแล้ว ได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่พร้อมสอบถามว่า ทราบหรือไม่ว่ามีลิฟท์ค้างอยู่จุดไหน ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์หญิงในโรงแรมดังกล่าว กลับยืนยันว่าไม่มีลิฟท์ค้าง เพราะเจ้าหน้าที่มอนิเตอร์กล้องวงจรปิดตลอด ทำให้ผู้สื่อข่าวยืนยันว่ามีเพื่อนติดอยู่ 9 คน เพราะติดต่อกันได้เมื่อสักครู่ แต่ตอนนี้ขาดการติดต่อ เนื่องจากเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมงแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่หญิงคนดังกล่าวสอบถามกับเจ้าหน้าที่ลิฟท์ว่ามีลิฟท์ค้างจริงหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงยอมรับว่ามีลิฟท์ค้างจริง แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาแก้ไข แค่รับทราบว่าลิฟท์ค้าง แต่ระบุไม่ต้องห่วงมีแอร์ปรับอากาศตลอด ขณะที่ผู้บริหารโรงแรมซึ่งเป็นชาวต่างประเทศ หลังที่ได้ส่งนายกรัฐมนตรีเข้าห้องรับรอง ได้รีบมาสอบถามว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น แล้วสั่งการให้ลงไปงัดลิฟท์ตัวดังกล่าวทันที    


ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายหนึ่งที่ประสบเหตุกล่าวว่า รู้สึกตกใจในช่วงที่ลิฟท์ตก แต่คิดว่าโรงแรมมีชื่อเสียงขนาดนี้ เมื่อได้รับแจ้งก็คงได้รับความช่วยเหลือทันที ในช่วงแรกยังได้มีการถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่ปรากฏว่าการช่วยเหลือล่าช้า จนทำให้มีบางคนเริ่มเกิดอาการเวียนศีรษะ  และการติดต่อกับเจ้าหน้าที่โรงแรมก็ไม่รับการตอบรับที่เร่งด่วน ล่าช้า ยังโชคดีที่ช่วงแรกสามารถติดต่อเพื่อนที่ด้านนอกได้ และหากไม่ได้รับการกดดัน การช่วยเหลือก็อาจจะล่าช้ากว่านี้ ไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ประสบเหตุ แต่ขอบคุณผู้บริหารโรงแรมชาวต่างประเทศที่เข้าใจและเร่งช่วยเหลือเมื่อทราบเหตุ ไม่ห่วงแค่ทรัพย์สินของโรงแรม แทนชีวิตของคนที่ติดอยู่ และไม่อยากคิดว่าถ้าลิฟท์ตัวนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ใช้แล้วการช่วยเหลือจะเป็นอย่างไร หวังว่าการให้บริการต่อไปกับคนอื่นๆจะไม่ประสบปัญหาเช่นนี้ 

ผู้ช่วยช่างภาพสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ระหว่างกดลิฟท์จากชั้นG เพื่อมายังสถานที่จัดการประชุมชั้น 2 ปรากฏว่าลิฟท์เคลื่อนตัวแล้วกระชากเสียงดัง ก่อนจะค้างอยู่ จึงแจ้งขอความช่วยเหลือ ตอนแรกยังรู้สึกปกติ เพราะคิดว่าลิฟท์ค้างธรรมดา และไม่นาน ช่างน่าจะมาแก้ไขได้ แต่ปรากฏว่าไม่มีเสียงตอบรับ หรือแจ้งจากเจ้าหน้าที่ด้านนอก เมื่อติดอยู่ด้านในนานประกอบกับคนเยอะ อากาศหายใจเริ่มน้อยลง ส่งผลให้ทุกคนเริ่มเวียนหัว โดยเฉพาะผู้ช่วยช่างภาพช่องหนึ่งซึ่งอายุเยอะ เริ่มนั่งลงและเวียนหัวจะอาเจียน เวลาผ่านไปกว่า 30 นาทีเจ้าหน้าที่จึงงัดประตูลิฟท์ ช่วยทุกคนออกมาได้ 

พร้อมตั้งคำถามว่า เหตุใดการให้ความช่วยเหลือจึงล่าช้า ทั้งที่เป็นโรงแรมชื่อดัง ที่สำคัญไม่มีเจ้าหน้าที่คอยสอบถามความเคลื่อนไหว หรือแสดงความเป็นห่วง แต่ปล่อยให้คนด้านในคอยถามแทนว่าดำเนินการถึงไหนอย่างไร.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจง มีปัญหาสุขภาพอาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

“สุชัชวีร์” ไขก๊อก “ปชป.” เล็งรวมคนตั้งพรรคใหม่

พรรคประชาธิปัตย์ 4 ก.ค.- “สุชัชวีร์” ไขก๊อก ลาออก “ปชป.” เตรียมรวมคนตั้งพรรคใหม่ ทำการเมืองระดับประเทศ เน้นพัฒนาคนจากการศึกษา ลั่นถ้าการศึกษาเปลี่ยนไม่ได้ อย่าหวังว่าประเทศไทยจะมีอนาคต ส่อไม่ลงผู้ว่าฯ กทม.ต่อ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์ในเวลา 10.00 น. เพื่อกราบไหว้พระแม่ธรณีบีบมวยผม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค ดร.สุชัชวีร์ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าได้ให้เลขานุการส่วนตัวยื่นหนังสือลาจากเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองของคณะกรรมการการเลือกตั้งและนายทะเบียนพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้ว และต้องขอกราบขอบคุณสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าพรรคซึ่งตนได้โทรศัพท์เรียนให้ทราบถึงการตัดสินใจไปแล้ว รวมทั้งขอบคุณกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้เกียรติ ทำงานกับพรรคการเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ขอยืนยันชัดเจนว่าไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งใด ๆ แต่มาจากอุดมการณ์และความฝันของตนที่ออกมาทำงานการเมือง ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในประเทศจริง ๆ เพราะวันนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะที่วิกฤติ และสถานการณ์ขณะนี้รอไม่ได้ ดังนั้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศที่เริ่มต้นจากการพัฒนาคนเรื่องการศึกษา ถือเป็นความตั้งใจอันแน่วแน่และเป็นการตัดสินใจอย่างรอบคอบว่าจากนี้เป็นต้นไปจะใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ทั้งหมด มาใช้ในการเปลี่ยนแปลงประเทศ และเริ่มต้นจากการเปลี่ยนเรื่องของการศึกษา ถ้าเราไม่เปลี่ยนเราแพ้เวียดนามแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ตนยอมไม่ได้ เมื่อถามว่าส่วนหนึ่งในเหตุผลการลาออกคือ พรรคประชาธิปัตย์ยังตัดสินใจร่วมรัฐบาลอยู่ใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า นั่นเป็นการตัดสินใจของพรรค ตนให้เกียรติหัวหน้าพรรคและผู้ใหญ่ในพรรค และไม่ใช่เหตุผลที่ตัดสินใจลาออก เพราะตนมีเหตุผลชัดเจนอย่างที่กล่าวมา ซึ่งสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ วิกฤติทางการเมือง […]

ปิดลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ย้ายไปแอปฯ “ทางรัฐ”

4 ก.ค.- “สรวงศ์” รมว.ท่องเที่ยวฯ สั่งปิดลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ชั่วคราว หลังพบปัญหาต่อเนื่อง เตรียมย้ายไปเปิดใหม่ผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” ยันไม่กระทบผู้ที่ลงทะเบียนรับสิทธิแล้ว นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ที่เริ่มเปิดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนเกิดปัญหาต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วขึ้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่าอยู่ระหว่างพิจารณา 2 แนวทาง คือ ล่าสุดเช้าวันนี้ นายสรวงศ์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทย ว่า ล่าสุดยังได้รับรายงานถึงปัญหาการลงทะเบียนมาอย่างต่อเนื่อง จึงสั่งการให้หยุดการลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ผ่านทางเว็บไซต์ www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง หรือแอปฯ Amazing Thailand ตั้งแต่บัดนี้ทันที แล้วให้ย้ายไปลงทะเบียนที่แอปฯ “ทางรัฐ” เพราะมีระบบยืนยันตัวตนในแอปฯ อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขั้นตอน ส่วนจะเริ่มได้เมื่อใด ณ เวลานี้ยังตอบชัดเจนไม่ได้ แต่วันนี้ (4 ก.ค.) จะหารือกับทีมเทคนิค ฝ่ายไอทีว่าจะสามารถย้ายระบบมาลงทะเบียนได้เร็วที่สุดเมื่อใด ยืนยันจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด […]

ต้อนรับอบอุ่น “ภูมิธรรม-เดชอิศม์” เข้ามหาดไทยวันแรก

กระทรวงมหาดไทย 4 ก.ค.- “ภูมิธรรม” พร้อม “เดชอิศม์” เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระสังฆราช ก่อนเข้า ก.มหาดไทย วันแรก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมอบนโยบาย โดยมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นวันแรก โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ร่วมให้การต้อนรับ โอกาสนี้ นายภูมิธรรม นำคณะเข้าถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร และเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระตำหนัก และเข้าสักการะสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ณ อาคารสัมฤทธิ์วิทยากร ภายในวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร จากนั้น นายภูมิธรรม และคณะ […]

วธ.คึกคัก! ต้อนรับ “แพทองธาร” เข้ากระทรวงวันแรก

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “แพทองธาร” เข้ากระทรวงวันแรก หลังนั่งควบเก้าอี้ รมว.วธ. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บอกตอนนี้แย่หน่อยต้องหยุดทำหน้าที่นายกฯ แต่ดีใจได้ทำหน้าที่รัฐมนตรีเต็มที่ ขอฝากตัว เตรียมดันเป็นกระทรวงหลัก สร้างโอกาสใหม่-รายได้ให้คนไทย ด้าน ปลัด วธ. นำข้าราชการต้อนรับ ลั่นประวัติศาสตร์ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นแล้ว เชื่อสปอตไลต์ส่องมา มั่นใจ ซอฟต์พาวเวอร์แข็งแกร่งแน่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้ากระทรวงวัฒนธรรมเป็นวันแรก โดยสวมชุดผ้าไทยสีม่วง ซึ่งเป็นสีประจำกระทรวงวัฒนธรรม โดยเดินทางมาถึงในเวลา 09.09 น. โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม, นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงมี สส. พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ ซึ่งทันทีที่มาถึงนายกรัฐมนตรี […]