อาคารไทยซีซี 19 ธ.ค. – นายกสมาคมค้าทองคำคาดราคาทองคำปีจอ มีสิทธิ์ลุ้น 22,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นทองคำเดือนธันวาคมลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำปี 2561 มีโอกาสปรับตัวสูงสุดที่ 22,000 บาทต่อบาททองคำ หรือ 1,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และต่ำสุดที่ 18,500 บาทต่อบาททองคำ หรือ 1,150 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาทองคำ คือ ความไม่แน่นอนนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และนโยบายขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด) ซึ่งแม้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ แต่เงินดอลลาร์สหรัฐกลับอ่อนค่าลง เพราะตลาดยังเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังฟื้นตัวไม่ได้ตามคาด ทำให้เงินบาทแข็งค่า โดยคาดว่าเงินบาทจะแข็งค่าที่ 32.62 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปี 2561 ซึ่งเมื่อเงินบาทแข็งค่าจะมีผลทำให้ราคาทองในประเทศถูกลง
ส่วนกลยุทธ์การลงทุนปีหน้า ยังคงแนะนำให้ลงทุนระยะสั้น โดยปี 2560 นักลงทุนระยะสั้นสามารถทำกำไรจากทองคำประมาณร้อยละ 10 โดยราคาสูงสุดปีที่แล้วอยู่ที่ 21,200 บาทต่อบาททองคำ และต่ำสุดที่ 19,250 บาทต่อบาททองคำ หรือมีส่วนต่างราคา 1,950 บาท และให้หลีกเลี่ยงการลงทุนระยะยาว
นายจิตติ กล่าวด้วยว่า สำหรับบรรยากาศร้านค้าทองคำในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นักลงทุนรายย่อย ซื้อทองคำรูปพรรณเป็นของขวัญปีใหม่มากขึ้น สวนทางกับบริษัท ห้างร้าน ที่มียอดซื้อลดลง โดยเปลี่ยนไปซื้อตั๋วเครื่องบิน แพ็กเกจทัวร์เป็นของขวัญแทน เพราะราคาต่ำกว่าทองคำ
นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทองคำเดือนธันวาคม 2560 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 45.13จุด เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน ที่ 48.72จุด ซึ่งลดลงมา 3.59 จุด หรือ ร้อยละ 7.37 โดยดัชนีปรับลดลงมาเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน แสดงให้เห็นว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงได้ต่อ โดยมีปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ คือ การดำเนินนโยบายการเงินของเฟด รองลงมา คือ ปัจจัยการแข็งค่าของค่าเงิน แรงขายเก็งกำไรของกองทุน และเงินทุนไหลเข้าไปสู่สินทรัพย์เสี่ยง โดยสมาคมฯ คาดการณ์ราคาทองคำเดือนธันวาคม 2560 ในกรอบ 1,221-1,320ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศอยู่ในกรอบ 19,001-20,500 บาทต่อบาททองคำ แนะนำนักลงทุนช่วงที่เหลือของปีซื้อสะสมในราคาต่ำกว่า 1,270 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ทั้งนี้ จากกลุ่มตัวอย่าง 280 ตัวอย่าง พบว่าร้อยละ 60.71 ของกลุ่มตัวอย่างยังคงซื้อทองในเดือนธันวาคมร้อยละ 22.14 ยังไม่แน่ใจจะซื้อหรือไม่ และร้อยละ 17.15 คาดว่าจะไม่ซื้อทองในเดือนธันวาคม.- สำนักข่าวไทย