หนองคาย 18 ธ.ค.- นายด่านศุลกากรหนองคายยืนยันไม่มีเจ้าหน้าที่รู้เห็นการนำเงินเข้ามาขาย 98 ล้านบาท เผยผลสอบพี่น้องชาวลาวยอมรับเจตนาหลบเลี่ยงกฎหมายทั้งไทย-ลาว เตรียมส่งเรื่องให้ที่ประชุมกรมศุลกากรจัดการทางกฎหมาย
นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย เปิดเผยคดีจับกุมชายพี่น้องชาว สปป.ลาว พร้อมของกลางปึกเงินสด 98 ล้านบาท ในรถยนต์จะผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า ล่าสุดได้สอบปากคำทั้งสองอีกครั้งเพื่อเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมทราบว่ามีเจตนาที่จะหลบเลี่ยงกฎหมายไทยทั้งขาเข้าและขาออกประเทศ ซึ่งทั้งสองยืนยันว่านำเงิน 2.8 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ไปขาย ไม่ใช่การแลกเงินกับธนาคารในฝั่งไทย สาขาหนองคาย เพียงแห่งเดียว จากนั้นนำเงินมาซุกซ่อนไว้ตามลานจอดรถของธนาคาร ซึ่งศุลกากรได้ทำหนังสือสอบถามไปยังธนาคารแล้ว คาดว่าจะมีหนังสือตอบข้อซักถามกลับมาภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะรวบรวมข้อมูลเสนอกรมศุลกากรนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับของกรมศุลกากร ผ่านทางฝ่ายสำนักกฎหมายของกรมศุลกากร ซึ่งจะประชุมคณะกรรมการเดือนละครั้ง ประกอบด้วย ตัวแทนจากสำนักงานอัยการ, ตัวแทนกระทรวงการคลัง ตัวแทนกรมศุลกากร และตัวแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้พิจารณายึดเงิน 94 ล้านบาท คืนให้พี่น้องชาว สปป.ลาว 4 ล้านบาท หรืออาจมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการ ส่วนทั้งสองได้ใช้สิทธิประกันตน แต่ต้องอยู่ในพื้นที่จังหวัดหนองคายต่อจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
นายนิมิตร กล่าวว่า การนำเงินเข้าและเงินออกนอกประเทศรายนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด แต่เป็นเงินนอกระบบของประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องการหลบเลี่ยงการตรวจสอบ เมื่อเป็นธุรกิจเงินด้านมืดก็ไม่ต้องการเปิดเผยถึงที่มาของเงิน จึงยอมยกเงิน 98 ล้านบาท ให้ทางการไทยแต่โดยดี การนำเงินมาขายให้กับธนาคารนั้นธนาคารมีสิทธิรับซื้อได้ แต่ต้องหาทางป้องกันร่วมกับธนาคารอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ทางการ สปป.ลาว ขอให้ฝ่ายไทยดูแลคดีนี้เต็มที่ ขอยืนยันศุลกากรหนองคายดำเนินตามระเบียบและขั้นตอนกฎหมายทุกประการ ไม่มีเจ้าหน้าที่รายใดรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับผู้ทำผิด
นายนิมิตร อธิบายด้วยว่า ผู้ที่ต้องการนำเงินตราออกนอกประเทศให้มาแจ้งเจ้าหน้าที่ประจำด่านพรมแดนฯ ก่อนทุกครั้ง หากยอดเงินถึง 450,000 บาท ต้องดำเนินการตามระเบียบของกรมศุลกากร ซึ่งในช่วงนี้มีความกังวลว่าอาจมีขบวนการเช่นนี้ลักลอบนำเงินเข้าออกประเทศอีก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลจะมีรถยนต์เข้า-ออกไม่ต่ำกว่าเดือนละ 50,000 คัน เจ้าหน้าที่จะเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบถี่ขึ้น และวันที่ 1 ม.ค.2561 เป็นต้นไป ชาว สปป.ลาวที่นำรถยนต์เข้าประเทศ หากไม่ใช่เจ้าของรถยนต์จะต้องมีใบมอบอำนาจจากเจ้าของรถมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง ทั้งกรณีรถส่วนบุคคลและรถยนต์ของบริษัททุกประเภท.-สำนักข่าวไทย