นนทบุรี 14 ธ.ค.-กลายเป็นเรื่องแปลกในสังคมไทย หลังจากเกิดกรณีหวยหาย ล่าสุดพบการแจ้งความหวยหายเพิ่ม 2 จังหวัด คือ สุพรรณบุรี และนนทบุรี โดยเฉพาะนนทบุรี คนขับแท็กซี่ที่แจ้งความ อ้างเป็นหวยงวดเดียวกันกับกรณีที่กาญจนบุรี
เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามข้อมูลกับนายประยูร ขันธ์ขาว อายุ 61 ปี ชาวจังหวัดสิงห์บุรี ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ หลังจากเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.คลองข่อย จังหวัดนนทบุรี ว่า สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน หายไป 1 ใบ
นายประยูร เล่าว่าเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ได้ซื้อสลากฯ 5 ใบ ที่แผงแห่งหนึ่งในปั๊ม ปตท. ถนนชัยพฤกษ์ จำได้ว่ามีเลข 533726 จำนวน 1 ใบ และ 533727 จำนวน 2 ใบ ส่วนอีก 2 ใบจำไม่ได้ จากนั้นได้เก็บเข้ากระเป๋าเสื้อ กระทั่งวันที่ 1 พฤศจิกายน ตรวจพบว่าถูกรางวัลที่ 1 และรางวัลข้างเคียง จึงเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ โดยไม่ได้เขียนชื่อไว้ด้านหลัง
แต่ทว่าในวันต่อมาได้พยายามหาสลากฯ แต่ก็ไม่พบ ทีแรกคิดว่าแฟนขโมยไปซ่อน แต่หาไม่เจอ จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ แต่ตำรวจไม่รับแจ้งเพราะจุดที่หายคือบริเวณสะพานพระราม 4 จึงไปที่ สภ.คลองข่อย ก่อนไปที่จุดเกิดเหตุกับตำรวจ เพื่อชี้จุดซื้อสลากฯ และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในการตามหาสลากฯ ที่หายไป และไม่มีการเปิดกล้อวงจรปิดดูภาพที่บันทึกไว้
ส่วนที่สุพรรณบุรี สืบเนื่องจากกรณีนางสาวพรทิพย์ ปาลวงศ์ อายุ 35 ปี ชาวอำเภอสามชุก นำสลากฯ งวด 1 ธันวาคม 1 คู่ เลข 451005 ไปลงบันทึกประจำวันว่าถูกรางวัลที่ 1 ที่ สภ.สามชุก เมื่อ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ 2 วันให้หลัง นางประดับ จันทร์อ่วม อายุ 71 ปี ชาวอำเภอสามชุก ได้แจ้งความว่าสลากฯ ดังกล่าวอาจเป็นของตนเองที่ทำหล่นหาย ซึ่งเมื่อวานนี้ (13 ธ.ค.) กองปราบฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามผู้ที่อ้างว่าทำสลากฯ หาย แต่พบเพียงบุตรสาว เพราะเจ้าตัวเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยบุตรสาวของนางประดับยืนยัน มารดาซื้อสลากฯ เลข 451005 เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน จากแผงที่ตลาด ก่อนเหน็บใส่ชุดชั้นใน ที่มีกระเป๋าซิบ จากนั้นเดินทางไปช่วยญาติทำกับข้าวในงานศพที่วัดบางขวาก และได้นำสลากฯ ขึ้นมาโชว์ให้ญาติดู ก่อนยัดกลับไปที่เดิม
อย่างไรก็ตาม อีกหลายชั่วโมงต่อมาปรากฎว่าสลากฯ ได้หายไป สอบถามผู้ใดก็ไม่มีใครพบ กระทั่งทราบมาว่า นางสาวพรทิพย์ ได้นำสลากฯเลขเดียวกันไปลงบันทึกประจำวัน จึงสงสัยว่าอาจเป็นใบของตนเอง เนื่องจากในวันที่ทำสลากฯ หาย นางสาวพรทิพย์ฯ ก็อยู่ในงานศพด้วย โดยบ่ายวันนี้ นางประดับ เตรียมเดินทางเข้าติดตามคดีที่ สภ.สามชุก ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน โดยมีความเป็นไปได้ว่า อาจมีความเชื่อมโยงกัน และต้องสอบปากคำนางสาวพรทิพย์ว่าซื้อสลากฯมาจากที่ใด.-สำนักข่าวไทย