สกัดแก๊งค้ายาเสพติดข้ามชาติ ใช้เรือยอชท์ขนส่ง

กทม. 13 ธ.ค. – การจับกุมผู้ต้องหาชาวออสเตรเลียและภรรยาคนไทย ซึ่งเป็นแก๊งยาเสพติดระดับโลก หลังขยายผลจากยาไอซ์ที่ลอยเกยชายหาดแม่รำพึง จ.ระยอง เมื่อปี 58 ผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ชี้ว่าการขนส่งยาเสพติดโดยใช้เรือยอชท์ของแก๊งค้ายาเสพติดเป็นรูปแบบใหม่ในไทยเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังใช้วิธีการแต่งงานกับสาวไทยเพื่อเป็นใบเบิกทางในการทำผิดกฎหมาย 


การเข้าจับกุมนายลุค โจชัว ชาวออสเตรเลีย และนางกันยารัตน์ เวชพิทักษ์ ภรรยาชาวไทย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา และการอายัดตัวนายไทเลอร์ โจเซฟ ฟูลตัน ชาวอเมริกัน จากการคุมขัง ถือเป็นการขยายผลหลังพบยาไอซ์ของแก๊งค้ายาระดับโลก น้ำหนักกว่า 50 กิโลกรัม ลอยเกยหาดแม่รำพึง จ.ระยอง เมื่อมิถุนายน ปี 58 


ในครั้งนั้นนายทุนให้นายลุค โจชัว ไปรับยาไอซ์จากน่านน้ำสากล จำนวน 500 กิโลกรัม ลำเลียงโดยใช้เรือยอชท์ จากตอนบนของเอเชีย และใช้ไทยเป็นทางผ่านเพื่อส่งไปยังออสเตรเลีย ก่อนทิ้งจะยาไอซ์ทั้งหมดลงทะเล ช่วงรอยต่อทะเลระยองกับสัตหีบ ขณะเจอเรือตรวจการณ์

ผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติครั้งนี้ถือว่าเป็นคดีแรกที่ใช้รูปแบบการขนส่งทางเรือ เพราะวิธีนี้สามารถอำพรางและตบตาเจ้าหน้าที่ได้ดีกว่าการขนส่งผ่านทางบก หลังจากนี้จะขยายผลและเฝ้าระวังเรือยอชท์ โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวติดชายทะเล 


ขบวนการค้ายาข้ามชาติแก๊งนี้ยังใช้วิธีการแต่งงานกับหญิงไทย เพื่อใช้เป็นใบเบิกทางในการขนส่งยาเสพติด เช่นเดียวกับชาวต่างชาติคนอื่น ผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามยาเสพติดให้ข้อมูลว่า ชาวต่างชาติเหล่านี้จะเดินทางเข้าประเทศไทยในรูปแบบนักท่องเที่ยว หรือบางครั้งมาในรูปแบบของผู้ลี้ภัย เพื่อพำนักในประเทศเช่น กรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต ก่อนหาช่องทางในการขนยาเสพติด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวผิวสีจากประเทศแถบแอฟริกา 

ส่วนแหล่งที่มาของยาไอซ์ของขบวนการค้ายาข้ามชาติแก๊งนี้ จากการตรวจสอบจากบรรจุภัณฑ์พบว่า แหล่งผลิตอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และมักใช้ประเทศไทยเป็นช่องทางในการลำเลียง ส่งต่อให้ประเทศปลายทาง ซึ่งชนิดของยาเสพติดที่สกัดกั้นได้ยังสามารถบ่งบอกประเทศปลายทาง เช่น ยาไอซ์ มักถูกขนส่งไปที่ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และฮ่องกง ส่วนโคเคน ประเทศปลายทางอยู่ในอเมริกา และยาบ้า จะถูกขนส่งมาขายให้กับคนไทย และประเทศเพื่อนบ้านของไทยอีกทอดหนึ่ง. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

จับแล้วมือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ย่านบางลำพู

“ผู้การจ๋อ” ส่ง “สารวัตรแจ๊ะ” นำทัพสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ “จ่าเอ็ม” มือยิง “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้