กรุงเทพฯ 13 ธ.ค.- รองโฆษก สตช. ระบุ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งภาค 7 ตั้งคณะกรรมสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีภายใน 30 วัน แนะประชาชน ถ่ายภาพคู่กับสลาก เขียนชื่อและเลขประจำตัวประชาชนไว้ด้านหลังสลากฯเพื่อเป็นหลักฐาน
พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการหาข้อเท็จจริงกรณีสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 เลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 60 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท ที่มีนายตำรวจเกษียณอายุราชการ และครูอ้างว่าเป็นกองสลากฯ
ล่าสุดพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้รับรายงานจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ว่า กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้มีการจัดตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วว่าใครเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งที่แท้จริงโดยมีพลตำรวจตรีกฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และให้สืบสวนหาข้อเท็จจริงภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน ซึ่งในวันนี้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จะมีการเรียกประชุมคณะทำงานเพื่อเร่งดำเนินการหาข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้กำชับพนักงานสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ให้ดูจากพยานหลักฐานเป็นหลัก และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมทั้งให้เร่งหาข้อเท็จจริงเพื่อสามารถคลี่คลายคดีโดยเร็วที่สุด พร้อมสั่งให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ตั้งคณะกรรมการอีกชุดหนึ่งเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงกรณีที่มีการแอบอ้างว่า มีนายตำรวจระดับนายพลเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบิดเบือนข้อเท็จจริงในคดี
ขณะที่ทางคณะพนักงานสอบสวนได้ตั้งประเด็นหลายส่วน รวมทั้งได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบพยานหลักฐาน ทั้งต้นขั้วของสลากฯ และตรวจดีเอ็นเอที่พบเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดดังกล่าว ว่าสอดคล้องกับบุคคลใดบ้าง
นอกจากนี้พลตำรวจเอกจักรทิพย์ เตรียมสั่งการให้กองบังคับการปราบปรามลงพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบถึงสาเหตุว่าทำไมจึงเกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวในหลายพื้นที่
พันตำรวจเอกกฤษณะ ยังแนะนำประชาชน หากซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ถ่ายภาพคู่กับสลากฯ เขียนชื่อและเลขประจำตัวประชาชนไว้ด้านหลังสลากฯทันทีที่ซื้อเพื่อเป็นหลักฐาน หากมีการสูญหาย และหากพบว่าสลากฯหายให้รีบลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานก่อนที่จะมีการออกเลขรางวัล .-สำนักข่าวไทย