ประจวบคีรีขันธ์ 12 ธ.ค.- นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ห่วงปัญหาช้างป่าละอูกับชุมชน เสนอแนวทางแก้เป็นวาระแห่งชาติ เผยอำเภอหัวหินเตรียมประชุม 15 ธ.ค.นี้ ระดมแผนป้องกันช้างออกนอกเขต ด้าน อช.แก่งกระจานเร่งของบสร้างรั้วครอบคลุมทุกจุด
นางสุนันทา พิมพ์ไทย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีข่าวพบช้างป่าละอูออกมาหากินนอกพื้นที่ป่าค่อนข้างบ่อย และเพื่อป้องกันปัญหาตามมาระหว่างชุมชนกับช้างป่า นายอำเภอหัวหินเตรียมประชุมผู้เกี่ยวข้องในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เพื่อหาทางแนวทางแก้ไขในระยะเร่งด่วนและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากช้างเข้ามากินพืชไร่ สำหรับความเห็นส่วนตัวนั้นอยากเสนอรัฐบาลนำปัญหาช้างป่าละอูเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้เกิดการบูรณาการกันทุกหน่วยงานของการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม เพราะนอกจากช้างจะกินพืชไร่แล้วอาจทำร้ายประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยทำร้ายช้างป่า เพียงแต่หาวิธีขับไล่ช้าง ซึ่งไม่ได้ผลแล้ว หากเป็นไปได้อยากให้อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานย้ายช้างป่าที่มีพฤติกรรมดุร้ายไปอยู่ในป่าลึกที่มีพื้นที่เหมาะสม
ด้านนายมานะ เพิ่มพูน หัวหน้าพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กล่าวว่า เพื่อแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว ขณะนี้ได้ประสานของบประมาณจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทำโครงการแก้ไขปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เป็นระยะทาง 76 กิโลเมตร ท้องที่ ต.ป่าเด็ง ระยะทาง 18 กม. และ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ระยะทาง 58 กม. เพื่อดำเนินการในปีงบประมาณ 2562-2564 ส่วนปีงบประมาณ 2561 อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้จัดทำโครงการขอใช้เงินรายได้สร้างแนวรั้วป้องกันช้างป่าในบริเวณวิกฤต ระยะทางประมาณ 2.5 กม. โดยประสานกับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยสัตว์ใหญ่สร้างแนวรั้วอีกประมาณ 3 กม. และผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เตรียมอนุมัติงบประมาณ 6.5 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน พร้อมตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาช้างป่า สำหรับสาเหตุที่ช้างป่าออกมาช่วงนี้ เนื่องจากพฤติกรรมช้างป่าเคยเคลื่อนย้ายจากป่าเขาหุบเต่าไปป่าละอูจากทิศตะวันออกไปตะวันตก แต่ปัจจุบันการสร้างรั้วในพื้นที่ ต.ป่าเด็ง ทำให้ช้างย้ายมารวมตัวบริเวณแนวรั้วที่ยังไม่ได้สร้างรั้วแนวเชื่อมต่อ จึงเดินเข้าชุมชนได้ง่าย แม้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ กจ. 7 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานในท้องถิ่นจัดชุดลาดตระเวนป้องกันแต่ช้างยังฝ่าแนวเข้ามาได้ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องทำรั้วกันช้างระยะเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย