กรุงเทพฯ 10ธ.ค.- รัฐบาลเปิดสายด่วนสินเชื่อรัฐบาล 1357 ให้บริการข้อมูลกับ SMEs พร้อมปรับปรุงกฎหมายและออกมาตรการสนับสนุนทุกกิจการให้เป็น Smart Enterprise ดันแข่งขันได้ในตลาดโลก
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งและเสริมศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ไทย โดยตั้งศูนย์ติดตามสินเชื่อ “เคลียร์ คัท ชัดเจน” ผ่านสายด่วน 1357 เพื่อตอบทุกคำถามที่เกี่ยวกับโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐบาลแก่ผู้ประกอบการ โดยที่ผ่านมารัฐบาลมีมาตรการเสริมศักยภาพให้แก่ SMEs โดยเฉพาะด้านการเงินออกมาหลายโครงการ เช่น กองทุนพัฒนา SMEs ตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท กองทุนฟื้นฟู SMEs วงเงิน 2,000 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งผู้ประกอบการ SMEs ยังอาจไม่เข้าใจรายละเอียดหรือเงื่อนไขของแต่ละโครงการ จึงได้เปิดสายด่วนดังกล่าวขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในด้านสินเชื่อและตอบคำถามต่าง ๆ
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งแก่ SMEs เนื่องจากธุรกิจ SMEs มีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 99 ของวิสาหกิจทั้งหมด และเป็นแหล่งจ้างงานกว่าร้อยละ 80 ของตลาดแรงงานในประเทศ จึงถือเป็นรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจ หาก SMEs ไทยมีความแข็งแกร่ง ก็จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม
“นายกฯ ย้ำว่า รัฐบาลพยายามปรับปรุงกฎหมาย และออกมาตรการทางการเงินและภาษี เพื่อสนับสนุน SMEs อย่างต่อเนื่อง เช่น ให้บริษัทขนาดเล็กสามารถระดมทุนได้ง่ายขึ้น ให้ SMEs นำค่าใช้จ่ายจากการทำวิจัยพัฒนาไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ 3 เท่าของที่จ่ายจริง ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยอยากให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอ และนำนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ไปพัฒนากิจการของตนจนเป็น Smart Enterprise เพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการอย่างก้าวกระโดด เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว.-สำนักข่าวไทย