สำนักงาน กกต. 6 ธ.ค.- กกต.ทุ่มงบ 17 ล้าน เนรมิตห้องทำงานรับ กกต.ใหม่ เผยแผนเตรียมชงซื้อรถประจำตำแหน่งใหม่ยกล๊อต 7 คัน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงาน กกต. ว่า หลังจากที่รัฐธรรมนูญ 60 มีผลบังคับใช้โดยมีการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เป็นลักษณะของคณะกรรมการ (บอร์ด) รวมทั้งกำหนดจำนวน กกต.เพิ่มขึ้นจาก 5 เป็น 7 คน และปัจจุบันทางสำนักงานฯ ได้ปรับโครงสร้างการทำงานสำนักงานฯ และปรับรูปแบบการทำงานของ กกต.บ้างแล้ว รวมกับมีการสรุปงานที่จะต้องส่งมอบให้กับ กกต.ชุดใหม่เมื่อเข้าปฏิบัติหน้าที่
ล่าสุดทางสำนักงานฯ ได้เตรียมในเรื่องห้องทำงานของ กกต. ชุดใหม่อีก 2 ห้อง โดยห้องทำงานเดิมของ กกต. 5 คนจะอยู่ที่บริเวณชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับห้องประชุม กกต.แต่เนื่องจากบริเวณชั้นดังกล่าวมีปัญหาในเรื่องพื้นที่จึงไม่สามารถที่จะขยายหรือปรับปรุงให้เป็นห้องทำงานสำหรับ กกต.ใหม่อีก 2 คนได้ ทางสำนักงานจึงได้ใช้พื้นที่บริเวณชั้น 9 ที่เดิมเป็นห้องรับรอง และห้องจัดเลี้ยง โดยปรับปรุงห้องจัดเลี้ยงเดิมให้กลายเป็นห้องทำงาน 2 ห้องโดยจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ และให้กรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ออกแบบ ก่อนที่จะเปิดให้เอกชนมายื่นซองประมูลในราคาที่ตั้งไว้ 17,799,000 บาท แต่บริษัทที่ประมูลได้เสนอจัดสร้างในราคาประมาณ 15 ล้านบาทเศษ
มีรายงานว่าสาเหตุที่ทำให้การปรับปรุงห้องทำงานดังกล่าวใช้งบประมาณค่อนข้างสูง เนื่องจากเดิมพื้นที่ชั้น 9 ไม่ได้ก่อสร้างไว้เพื่อรองรับที่จะทำเป็นห้องทำงาน จึงต้องมีการปรับพื้นที่ใหม่ทั้งระบบไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบการป้องกันเพลิงไหม้ ป้องกันความร้อน และการจัดวางผังห้องให้มีห้องทำงานส่วนตัว ห้องของทีมงาน รวมถึงห้องน้ำ ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างปรับปรุงมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมและกำหนดแล้วเสร็จสิ้นเดือนธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อ กกต.ชุดใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่การเลือกห้องทำงานว่าจะใครจะอยู่ห้องชั้น 8 หรือชั้น 9 ก็ให้ กกต.ทั้ง 7 คน ตกลงกันเอง
นอกจากนี้ทางสำนักงานได้พิจารณาเรื่องการจัดหารถประจำตำแหน่งโดยก่อนหน้านี้ กกต.มีมติอนุมัติจัดซื้อรถเบนซ์ประจำตำแหน่งเพิ่มเติมอีก 2 คัน เพื่อรองรับกับ กกต.ที่เพิ่มขึ้น 2 คน เพราะจากเดิม กกต.มีรถเบนซ์ประจำตำแหน่ง 5 คันแล้ว แต่ปรากฎว่าทางสำนักงานเห็นว่า รถประจำตำแหน่งเดิมทั้ง 5 คัน จะสิ้นสุดอายุการใช้งาน 5 ปี ช่วงต้นปี 2561 ซึ่งจะเป็นช่วงที่ กกต.ใหม่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ จึงมีแนวคิดว่าอยากจะจัดซื้อใหม่ทั้ง 7 คันไปพร้อมกัน เพื่อให้ไม่เกิดความลักลั่นว่าใครจะใช้รถเก่าหรือรถใหม่ แต่ถ้าหากมีปัญหาในเรื่องของงบประมาณก็อาจจะใช้วิธีการเช่าซื้อแทนการจัดซื้อไปก่อนแล้วรอให้รถประจำตำแหน่งชุดเก่าครบอายุจึงจะซื้อใหม่ทั้งหมด
แต่ทั้งนี้ก็มีรายงานว่า กกต.ชุดปัจจุบันก็เห็นว่าไม่ควรที่จะซื้อใหม่ทั้งหมด เนื่องจากรถประจำตำแหน่งเดิม 5 คัน ก็ยังอยู่ในสภาพที่ดี ประกอบกับเกรงว่าอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน จึงไม่น่าจะมีการพิจารณาอนุมัติ อีกทั้งเรื่องดังกล่าวไม่ได้อยู่ในแผนงบประมาณของปีนี้ที่ได้มีการอนุมัติไปแล้ว การให้ กกต.ชุดใหม่เป็นผู้พิจารณาและจัดซื้อในงบประมาณใหม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า.-สำนักข่าวไทย
