ปัตตานี 1 ธ.ค.-ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ส่งผลกระทบต่อประชาชนในเขตเมือง โดยเฉพาะชุมชนริมแม่น้ำถูกน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร
ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทะลักเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยในเขตเมืองต้องเร่งหาแนวทางป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้าบ้าน ส่วนถนนหนทางในเมืองปัตตานีถูกน้ำท่วมทั้งเมือง การจราจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ถนนหนองจิก เส้นทางหลักเข้าเมืองปัตตานี ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 30 ซม. ส่งผลให้การจราจรติดขัดยาว รถใหญ่ยังสามารถขับผ่านได้อย่างช้าๆ และรถเล็กเช่นรถเก๋งมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกน้ำเข้ารถ ส่วนรถจักรยานยนต์ไม่น่าจะผ่านได้ แต่ก็มีบางคันที่พยายามขับฝ่าน้ำท่วม สุดท้ายก็ไม่รอด เครื่องยนต์ดับเสียหายหลายคัน บริษัทจำหน่ายรถจักรยานยนต์ต้องเร่งยกรถจักรยานยนต์ขึ้นรถบรรทุก เคลื่อนย้ายไปยังสาขาอื่นที่ต่างจังหวัดก่อนชั่วคราว เพราะกังวลว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก อาจทำลายสินค้าเสียหาย เช่นเดียวกับประชาชนผู้ประกอบการห้างร้านต่างๆ ในเมืองปัตตานี ต้องปิดร้านและเร่งนำกระสอบทรายหรือผ้าใบปิดหน้าร้าน ป้องกันน้ำเข้าร้าน
น้ำในแม่น้ำปัตตานีเอ่อล้นตลิ่ง ทะลักเข้าท่วมเขตเมือง แม้เขื่อนทดน้ำปัตตานีพยายามหน่วงน้ำไม่ให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในเขตเมืองแล้ว แต่เอาไม่อยู่ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมมา 1 สัปดาห์ ค่อนข้างมาก และมวลน้ำจากพื้นที่ต้นน้ำไหลมาสมทบเพิ่ม ทำให้ทะลักเข้าท่วมเมืองปัตตานีอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำสูงประมาณ 30-50 ซม. โดยเฉพาะชุมชนริมแม่น้ำปัตตานีกว่า 15 ชุมชน ถูกน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร ซึ่งชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าปีนี้น้ำมาเร็ว
นายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี คาดไม่ถึงว่าจะมีมวลน้ำมากขนาดนี้ ส่งผลให้พื้นที่เมืองปัตตานีถูกน้ำท่วมมากว่าร้อยละ 60 ซึ่งเทศบาลเมืองปัตตานีได้เตรียมเครื่องสูบน้ำแล้ว 15 เครื่อง เพื่อระบายน้ำออก แต่ไม่สามรถสูบน้ำระบายออกได้ เพราะน้ำในแม่น้ำล้นตลิ่งแล้ว จึงได้แต่เพียงหวังให้ระดับน้ำลดลง
ถนนสายเอเชียที่จะมุ่งหน้าสู่เมืองปัตตานีถูกน้ำท่วมเป็นระยะ บางช่วงต้องปิด 1 ช่องทางให้รถวิ่งสวนเลน แต่ยังสามารถขับผ่านได้อย่างช้าๆ ส่วนภาพรวมสถานการณ์ปัตตานีขณะนี้ถูกน้ำท่วมแล้ว 12 อำเภอ ได้รับผลกระทบกว่า 18,000 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตจากเหตุจมน้ำแล้ว 4 ราย และเสียชีวิตจากเหตุวาตภัย 1 ราย.-สำนักข่าวไทย