กรุงเทพฯ 30 พ.ย. – ธปท.ชี้เศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสโตถึงร้อยละ 4 ผลจากส่งออกและมาตรการกระตุ้นของรัฐ ยอมรับดูแลเงินบาทช่วงแข็งค่าเร็ว ให้เวลาผู้ส่งออกปรับตัว
นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยช่วงที่เหลือของปีมีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยคาดว่าเดือนพฤศจิกายนการบริโภคภาคเอกชนจะกลับมาขยายตัวได้ดี หลังจากเดือนตุลาคมการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวชะลอลงจากปัจจัยชั่วคราว ประกอบกับรัฐบาลมีมาตรการช้อปช่วยชาติจะช่วยกระตุ้นการจับจ่าย ซึ่งจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 อาจจะขยายตัวถึงร้อยละ 4.6 ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยปี 2560 มีโอกาสขยายตัวร้อยละ 4 สูงกว่าที่ ธปท.คาดไว้ว่าโตร้อยละ 3.8 เพราะบรรยากาศเศรษฐกิจโดยรวมยังดีและเชื่อว่ารัฐบาลจะมีการเร่งอัดฉีดงบประมาณและเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี ประกอบกับการส่งออกขยายตัวดีทุกตลาดส่งออกและทุกสินค้า ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ในต่างประเทศ โดยคาดว่าปีนี้การส่งออกมีโอกาสขยายตัวสูงถึงร้อยละ 9-10
ส่วนทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2561 จะมีความมั่นคงมากขึ้น โดยการบริโภคในประเทศและการลงทุนภาคเอกชนจะกลับมาขยายตัวดีขึ้นและผลบวกจากการส่งออกที่ขยายตัวดีจะกระจายมาถึงภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การจ้างงานนอกเวลาและการใช้จ่ายในประเทศ
นายดอน กล่าวถึงการแข็งค่าของเงินบาทที่เคลื่อนไหวประมาณ 32.57 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐว่า เป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 2560 เงินบาทแข็งค่าร้อยละ 9.93 อยู่ในอันดับ 2 รองจากเงินวอนเกาหลีใต้ที่แข็งค่าร้อยละ 11.77 และใกล้เคียงกับเงินริงกิต มาเลเซีย แข็งค่าร้อยละ 9.74 ส่วนการเคลื่อนไหวของเงินบาทตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงปัจจุบันเงินบาทแข็งค่าร้อยละ 4 อยู่ในอันดับ 3 รองจากเงินวอน เกาหลีใต้ที่แข็งค่าร้อยละ 5.3 และเงินริงกิตมาเลเซีย แข็งค่าร้อยละ 5 โดยยอมรับว่าบางช่วงเวลาเงินบาทแข็งค่าค่อนข้างเร็วขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาค ซึ่ง ธปท.ไม่ได้นิ่งนอนใจ หากเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป ธปท.ก็จะเข้าไปดูแล เพื่อให้เวลาผู้ส่งออกได้มีการปรับตัว อย่างไรก็ตาม แม้เงินบาทจะแข็งค่า แต่การส่งออกของไทยยังขยายตัวได้ดี .-สำนักข่าวไทย