กรุงเทพฯ 29 พ.ย. – ปั๊มบางจากฯ เดินหน้าผลิตไฟฟ้าใช้เอง ทั้ง SOLAR ROOFTOP และพลังงามลม ตั้งเป้าหมายมี EBITDA ใกล้เคียงปีนี้ 1.3 หมื่นล้านบาท แม้จะปิดซ่อมบำรุง 45 วัน
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2561 บริษัทจะเปิดสถานีบริการน้ำมันต้นแบบใหม่ภายใต้แนวคิด ประสบการณ์สีเขียวที่ถนนศรีนครินทร์ ภายในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ โดยจะมีการผลิตไฟฟ้าใช้เองจากการติดตั้งแผง SOLAR ROOFTOP พลังงานลม และสถานี ชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี )ภายในปั๊มน้ำมัน ส่วนจะมีการติดตั้งจำนวนกี่แห่งนั้น จะพิจารณาตามความเหมาะสมของสภาพที่ตั้งเป็นสำคัญ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าและลดมลพิษ
ทั้งนี้ ภายในปี 2561 บางจากฯ ตั้งบลงทุนประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งจะเป็นการลงทุนเพิ่มสถานีบริการน้ำมันอีก 70-80 ปั๊มทั่วประเทศ การลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน ลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าสีเขียว และการลงทุนในโรงกลั่นฯ ที่จะมีการปิดซ่อมบำรุง เป็นเวลา 45 วัน ในไตรมาส 2/2561 ดังนั้น คาดว่ากำลังการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.02 แสนบาร์เรล/วัน ลดลงจากปีนี้ที่มีปริมาณการกลั่น 1.11 แสนบาร์เรล/วัน ส่วนแนวโน้มค่าการกลั่น (GRM) ในปีหน้าคาดว่าจะทรงตัวใกล้เคียงปีนี้ที่ 6-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ 60-65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และบริษัทยังรักษากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) ให้ใกล้เคียงปีนี้ที่ 13,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บางจากฯ จัดเวทีเสวนา “วิกฤติ 2 องศา วิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติสังคม” โดยเห็นว่าปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศน์ สิ่งแวดล้อม เชื่อมโยงต่อเนื่องมาถึงการดำรงชีวิตในสังคมของมนุษย์ เช่น การเพาะปลูก ความมั่นคงทางอาหาร พฤติกรรมการบริโภค การเกิดโรคระบาดทั้งในมนุษย์และสัตว์เลี้ยง เป็นต้น จากปัญหาดังกล่าว เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและหวังผลสัมฤทธิ์ให้เกิดขึ้น เพื่อเยียวยาปัญหาด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศา
“ถ้าเรายังมุ่งเฉพาะพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมให้เติบโตเพียงอย่างเดียว โดยละเลยการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ เศรษฐกิจและสังคมในที่สุด และนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เราต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นในรอบ ๆ ตัวเรา ทั้งภัยพิบัติและโรคภัยต่าง ๆ ที่ทำให้สูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และเงินทองเป็นจำนวนมหาศาลในแต่ละปี” นายชัยวัฒน์ กล่าว. – สำนักข่าวไทย