ทำเนียบรัฐบาล 29 พ.ย.-เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในโอกาสเข้ารับหน้าที่ สองฝ่ายพอใจสัมพันธ์ 2 ประเทศแน่นแฟ้น ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้า
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือระหว่างที่นายลง วิซาโล (H.E. Mr. Long Visalo) เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีที่นายลง วิซาโล ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยและได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายพระราชสาส์นตราตั้ง เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนทื่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมฝากความระลึกถึงสมเด็จกิตติพฤฒบัณฑิต บุน รานี ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
“ทั้งสองฝ่ายพอใจความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-กัมพูชา โดยแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอให้เร่งรัดความร่วมมือระหว่างกันตามผลการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat: JCR) ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 3 ที่กรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2560 นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้ตั้งเป้าหมายการค้า ที่จะเพิ่มมูลค่าระหว่างกันให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ไทยยินดีที่จะแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาคุณภาพสินค้า ขณะที่กัมพูชาแสดงความสนใจที่จะส่งผู้แทนเข้ามาศึกษาการพัฒนาสินค้าของไทยเช่นกัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเล็งเห็นถึงความสำคัญของการขจัดและป้องกันการลักลอบสินค้าผิดกฎหมายระหว่างพรมแดนไทย – กัมพูชาด้วย” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า เอกอัครราชทูตกัมพูชาได้แสดงความขอบคุณฝ่ายไทยที่ส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะที่ไทยจะส่งมอบรถไฟดีเซลให้แก่ฝ่ายกัมพูชา โดยที่เจ้าหน้าที่ของฝ่ายกัมพูชาจะเข้ารับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการเดินรถและบำรุงรักษารถจากฝ่ายไทย เพื่อให้สามารถนำไปใช้ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีกับการสร้างทางรถไฟ อรัญประเทศ – ปอยเปต บนระยะทาง 6.5 กิโลเมตร ที่มีความคืบหน้าอย่างมาก พร้อมยังเร่งรัดให้จัดทำความตกลงการเดินรถไฟร่วมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
“นายกรัฐมนตรีให้ความมั่นใจว่าแรงงานกัมพูชามีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย และยืนยันให้ความสำคัญกับการดูแลแรงงานกัมพูชา โดยขอให้กัมพูชาให้ความร่วมมือกับการดำเนินการของรัฐบาลไทยเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการเร่งรัดกระบวนการพิสูจน์สัญชาติให้เสร็จสิ้นโดยเร็วด้วย นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการเปิดจุดผ่านแดนถาวร ซึ่งจะมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานเพื่อดำเนินการต่อไป นายกรัฐมนตรีแสดงความเชื่อมั่นในความรู้ความสามารถของเอกอัครราชทูตกัมพูชาและยืนยันว่ารัฐบาลไทยพร้อมจะร่วมมือกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย – กัมพูชาให้แน่นแฟ้นขึ้นในทุกด้าน พร้อมอวยพรเอกอัครราชทูตกัมพูชาให้ประสบผลสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย