ปัตตานี 27 พ.ย.-ตลอดวันนี้ นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาความไม่สงบและการพัฒนาเศรษฐกิจตามนโยบาย สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ก่อนที่วันพรุ่งนี้จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.สงขลา
ถือเป็นธรรมเนียมที่ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีจะต้องนำบรรดารัฐมนตรีลงพื้นที่พบปะประชาชนติดตามการทำงานแก้ไขปัญหาและชี้แจงนโยบาย ครั้งนี้ ครม.สัญจรใต้ เลือก จ.ปัตตานี แม้ช่วงนี้สภาพอากาศจะไม่เป็นใจ ฟ้าฝนตกตลอด แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อความตั้งใจ โดยท่านผู้นำได้เปลี่ยนกำหนดการ นำเครื่องลงจอดที่สนามบินกองบิน 56 จ.สงขลา จากเดิมจะลงจอดที่สนามบินบ่อทอง จ.ปัตตานี นั่งรถระยะทางกว่า 90 กม. เพื่อมาถึงจุดหมาย ตลาดกลางปศุสัตว์จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ครั้งนี้ เป็นเหตุให้ภารกิจในวันนี้ล่าช้าไปกว่า 2 ชม.
ทันทีที่เดินทางถึง ได้รับการต้อนรับด้วยการแสดงสุดประทับใจ ระบำลังกาสุกะที่สะท้อนประวัติศาสตร์ความเป็นมาของปัตตานี ทำให้นายรัฐมนตรีถึงกับกลัว เกร็ง และเกรงประชาชนที่มาให้การต้อนรับจากทุกอำเภอกว่า 3,000 คนจะโกรธ รีบกล่าวขอโทษถึงสาเหตุที่เดินทางล่าช้า บอกว่าสภาพอากาศไม่เป็นใจ แต่ตนมีความตั้งใจที่จะมา อย่างไรก็ต้องมาให้ถึง แถมยังหยอกลูกอ้อนต่อด้วย หวังว่าคนใต้ที่น่ารักจะไม่โกรธ แหม…พูดเสียขนาดนี้ใครจะไปโกรธลง
ตลอดเวลา พยายามชี้แจงทำความเข้าใจอธิบายการทำงาน และการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ ขอทุกคนช่วยกัน อย่าเกลียดทหาร หากไม่มีความรุนแรง การพัฒนาด้านต่างๆ จะเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว เพราะพื้นที่นี้มีศักยภาพสูง ส่วนปัญหาราคายางพาราที่บอกว่า เร่งทำอยู่ ด้วยการใช้ยางภายในประเทศและแปรรูปสร้างมูลค่าส่งออก ขอพี่น้องชาสวนยางมีเหตุผลอย่าใช้อารมณ์ หรือเดินขบวน เพราะผิดกฎหมาย อยากให้ส่งเรื่องมาที่ศูนย์ดำรงธรรม ตนพร้อมฟังทุกข้อเสนอ พูดไปพูดมา ชักเริ่มนานเลยเกิดปัญหาแบบนี้
เกือบจะอารมณ์ดีตลอดแล้ว แต่มาเจอกับหนุ่มชาวประมงที่มาร้องเรียนปัญหา อยากให้แก้กฎหมายเพิ่มเวลาทำประมง จาก 220 วัน โดยพูดแข่งไม่ยอมฟังเหตุผล ไปดูว่านายกรัฐมนตรีจะทำอย่างไร
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางไปที่โรงงานน้ำมันปาล์ม บริษัทปาล์มพัฒนาชายแดนใต้ ซึ่งมีการวิจัยเกษตรแปรรูปร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน จะไปดูโครงการพัฒนาเกษตรอุตสากรรมแปรรูปที่รัฐบาลจะเร่งเดินหน้าผลักดัน ด้วยความตั้งใจและจริงจัง จึงได้ซักถามดุดันด้วยลีลาแบบทหาร
ภารกิจสุดท้าย นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมติดตามงานด้านความมั่นคง และพบปะผู้นำท้องถิ่น ที่กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย จ.ปัตตานี ก่อนจะเดินทางด้วยเครื่องบิน C-130 จากสนามบินบ่อทอง จ.ปัตตานี ไปยังกองบัน 56 จ.สงขลา เพื่อร่วมประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย