“พ.ต.อ.กฤษณะ” แจงตำรวจตรวจค้น “ดีเจต้นหอม”

กทม. 26 พ.ย.-พ.ต.อ.กฤษณะ รองโฆษก ตร.
แจงกรณีมีการตรวจค้น “ดีเจต้นหอม” พบเป็นชุดปฏิบัติการเสริมพิเศษ สน.หัวหมาก ออกกวดขันปราบปรามยาเสพติดบ่อนการพนัน
เห็นรถจอดในจุดล่อแหล่ม จึงเข้าเข้าไปตรวจสอบ


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ  รองโฆษก ตร.
กล่าวถึงกรณีที่มีการตรวจค้นดีเจต้นหอม เมื่อประมาณปลายเดือนตุลาคม ว่าเบื้องต้นได้รับรายงานจาก
สน.หัวหมาก ว่า สน.หัวหมากได้การจัดชุดปฏิบัติการเสริมพิเศษกวดขันปราบปรามยาเสพติดบ่อนการพนัน
สถานบริการแหล่งอบายมุขในพื้นที่และแข่งรถในทางประกอบกับแผนปฏิบัติฝ่ายป้องกันปราบปราม
ให้ชุดจู่โจม ป้องกันเหตุนักเรียนตีกัน แข่งรถ ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 20.00-04.00
น. รับผิดชอบถนนศรีนครินทร์ ถนนพระราม 9 เจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันและปราบปราม
สน.หัวหมาก ออกตรวจพื้นที่เพื่อป้องกันเหตุดังกล่าว ด้วยรถจักรยานยนต์
ในวันเกิดเหตุถนนพระราม 9
มีกลุ่มรถจักรยานยนต์แข่งรถในทางระหว่างนั้นได้พบรถจักรยานยนต์ รถต้องสงสัยจำนวน 2
คัน ขับขี่ด้วยความเร็วสูงจึงได้ติดตามไป แต่ไม่สามารถติดตามได้ทัน
จึงได้ขึ้นสะพานกลับรถ เพื่อกลับเข้าไปป้องกันเหตุพื้นที่ โดยใช้เส้นทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์
ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตเห็นบริเวณสะพานมีรถยนต์จอดอยู่ซึ่งน่าสงสัย
เนื่องจากเป็นช่วงเวลาค่อนข้างดึก และบริเวณนั้นเป็นจุดล่อแหล่ม
จึงได้เข้าไปเพื่อจะเข้าไปตรวจสอบ โดยในระหว่างที่ขับขี่เข้าไปนั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดสัญญาณไฟวับวาบอยู่ตลอด เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบว่า
มีผู้หญิงรูปร่างท้วมถือกระเป๋าใบใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสงสัยว่า
ภายในจะมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อน จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
และได้ให้ดูบัตรประจำตัวตำรวจ จากนั้นจึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในกระเป๋าใบดังกล่าว
ทั้งนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่ในกรอบของกฎหมาย และมิได้มีเจตนากลั้นแกล้งผู้ใด โดยก่อนตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ
จนเป็นที่พอใจแล้ว จึงทำการตรวจค้นกระเป๋าใบดังกล่าว
เมื่อตรวจค้นเรียบร้อยไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
จึงสอบถามว่าสาเหตุที่มาจอดบริเวณดังกล่าว จนทราบว่าเป็นดีเจต้นหอมกับเพื่อน
และดีเจต้นหอมได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามาส่งเพื่อนขึ้นรถแท็กซี่เพื่อเดินทางกลับบ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ช่วยเรียกรถแท็กซี่ให้กับเพื่อนของดีเจต้นหอม
พร้อมทั้งส่งขึ้นแท็กซี่จนเรียบร้อย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ดีเจต้นหอมไปจากบริเวณดังกล่าว
เนื่องจากเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุเพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย


รองโฆษก ตร.ยังกล่าวต่ออีกว่า
ในกรณีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบรถต้องสงสัยอย่างตรงไปตรงมา
ยึดแบบแผนตามยุทธวิธีตำรวจตามปกติ ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด
ซึ่งที่ผ่านมาการตรวจสอบ ตรวจค้นลักษณะนี้
มีผลการปฏิบัติในการจับกุมผู้ต้องหาได้หลายคดี เช่น คดีครอบครองยาเสพติด อาวุธปืน
เป็นต้น จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบตรวจค้น
หากบริสุทธิ์ใจกรุณาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่
เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนโดยรวม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง