กทม. 26 พ.ย. -กกต.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นพรุ่งนี้ ก่อนส่ง สนช.-กฤษฎีกาหลังรัฐบาลส่งสัญญาณเร่งแก้กฎหมาย 6 ฉบับ รับปลดล็อค แต่กฤษฎีกากลับชงถามความเห็นแก้กฎหมายกับ กกต. แค่ 2 ปมไร้แก้กระบวนการเลือกตั้ง- อำนาจใหม่กกต.ตามรธน. ที่จะเอื้อจัดเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนได้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ ( 27 พ.ย.) ที่ประชุมกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ที่สำนักงาน กกต. เสนอภายหลังจากที่เมื่อวันที่ 20 พ.ย. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีหนังสือถึงเลขาธิการ กกต.เพื่อขอความเห็นต่อการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเกี่ยวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 6 ฉบับ ตามที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 6 ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่สำนักงาน กกต.เห็นว่า หนังสือของกฤษฎีกาและร่างกฎหมายทั้ง 6 ฉบับที่เสนอมาด้วยนั้น ไม่ได้มีเนื้อหาที่แก้ไขให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และพ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. สมกับที่รัฐบาลประกาศก่อนหน้านี้ว่ากำลังแก้ไขกฎหมายท้องถิ่น เพื่อที่จะจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนการเลือกตั้ง ส.ส.
สำหรับร่างกฎหมายทั้ง 6 ฉบับ ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาส่งมาขอความเห็นประกอบด้วย ร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ร่างพ.ร.บ.เทศบาล ร่างพ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ร่างพ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) ร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร และร่างพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา โดย4 ประเด็นที่ขอความเห็นเป็นเรื่อง การจะเพิ่มเติมคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น การกระทำอันเป็นการต้องห้ามหากฝ่าฝืนก็เป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่งและถือเป็นลักษณะต้องห้ามที่ไม่อาจสมัครเป็นสมาชิกหรือผู้บริหารท้องถิ่นได้อีก การเพิ่มเติมกระบวนการสอบสวนวินิจฉัยกรณีผู้บริหารท้องถิ่นละเลยไม่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ หรือปฏิบัติไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ประพฤติตนฝ่าฝืนความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ประพฤติในทางนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ตำแหน่งแต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ราชการ เพื่อให้การตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารท้องถิ่นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันไม่ให้บุคคลที่ขาดคุณสมบัติกลับเข้ามารับตำแหน่งได้อีกครั้ง เท่านั้น
แหล่งข่าวจาก กกต. ระบุว่า กฤษฎีกาเป็นมือกฎหมายของประเทศ ย่อมรู้ดีว่า พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นพ.ศ.2545 มีอะไรที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ 60 และขณะนี้พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.60 ใช้บังคับแล้วมีหลักการที่เปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร จำเป็นที่กฤษฎีกาต้องใส่ไปในร่างกฎหมายท้องถิ่นฉบับใหม่ หากรัฐบาลจะจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน แต่ร่างกฎหมายที่ส่งมาขอความเห็นกฤษฎีกากลับยกมาแค่นี้ มันก็สะท้อนได้เหมือนกันว่ารัฐอาจไม่ได้ตั้งใจจะให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนจริงๆ อย่างไรก็ตามทางสำนักงาน กกต. เห็นว่าเมื่อประธาน กกต.เป็นผู้รักษาการตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น และรัฐบาลได้ประกาศจะเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนการเลือกตั้ง ส.ส. ดังนั้นจึงควรที่จะยกร่างกฎหมายดังกล่าวให้มีความสมบูรณ์พร้อมหากรัฐบาลจะเดินหน้าเลือกตั้งท้องถิ่น จึงได้มีการเสนอร่างกฎหมายที่สำนักงานยกร่างขึ้นให้ที่ประชุม กกต.ได้พิจารณาพร้อมกับหนังสือขอความเห็นของสำนักงานกฤษฎีกา โดยมีเนื้อหาที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและพ.ร.ป. กกต. เช่น การกำหนด อำนาจหน้าที่ของ กกต.จังหวัดในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นเดิม ตามพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น 45 ก็จะถูกกำหนดให้เป็นหน้าที่ของผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดแทน อำนาจของ กกต.ที่จะสั่งระงับสิทธิสมัครได้เป็นการชั่วคราว อำนาจ กกต.คนเดียวระงับยับยั้งการเลือกตั้งในหน่วยหรือเขตเลือกตั้งหากพบทุจริต อำนาจ กกต.ในการเพิกถอนสิทธิสมัครก่อนการประกาศผลการเลือกตั้ง และได้นำเนื้อหาในร่างแก้ไขเพิ่มเติมของกฤษฎีกาไปใส่รวมไว้ด้วย ซึ่งหากที่ประชุม กกต.มีมติเห็นชอบ ก็จะมีการส่งร่างฯกฎหมายดังกล่าวไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาภายในวันที่ 4 ธ.ค.ตามที่กฤษฎีการะบุขอให้มีหนังสือตอบกลับมา ขณะเดียวกันก็จะส่งไปยังสภานิติบัญญัติให้พิจารณาดำเนินการด้วยอีกทางหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย