รร.อนันตรา สยาม 24 พ.ย. – เจโทรชวนไทยลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว-วิจัย-อาหาร “กอบศักดิ์” หนุนเอกชนลงทุนต่างประเทศ
นายฮิโรยูกิ อิชิเกะ ประธานคณะกรรมการบริหารเจโทรสำนักงานใหญ่ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวในงานสัมมนา “Invest Japan Symposium 2017” ว่า ประเทศญี่ปุ่นพร้อมรับการลงทุนจากผู้ประกอบการไทย โดยปีที่ผ่านมาไทยลงทุนในญี่ปุ่นมูลค่ากว่า 659 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผู้ลงทุนอันดับ 11 ในญี่ปุ่น โดยผู้ประกอบการญี่ปุ่นขณะนี้เริ่มตระหนักและรู้ถึงนโยบายของไทย ทั้งประเทศไทย 4.0 รวมถึงโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) มากขึ้น และให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุน ขณะเดียวกันการเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจของไทยเน้นการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศสูงขึ้นและมากกว่าการลงทุนภายในประเทศ
ทั้งนี้ ไทยควรใช้โอกาสนี้เข้ามาลงทุนในญี่ปุ่น 3 อุตสาหกรรมสำคัญ ประกอบด้วย อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งขยายตัวต่อเนื่อง และนักท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นมากถึง 1 ล้านคนในปีนี้ และอีก 3 ปีข้างหน้าญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตมาก จึงเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยที่จะเข้ามาลงทุนในญี่ปุ่นโดยตรง
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการค้นคว้าวิจัย เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมอาหาร เป็นอุตสาหกรรมที่ญี่ปุ่นอยากให้ไทยมาลงทุนด้วย เพราะนโยบายประเทศไทย 4.0 เน้นการพัฒนาด้วยนวัตกรรมสอดคล้องกับญี่ปุ่น ขณะที่อุตสาหกรรมอาหารไทยมีความได้เปรียบ หากสามารถร่วมกันผลิตอาหารด้วยคุณภาพและทำเป็นธุรกิจส่งออกอาหารจากญี่ปุ่นก็จะยิ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมอาหารของไทย ขณะเดียวกัน เจโทรได้สนับสนุนและส่งเสริมการทำธุรกิจของผู้ประกอบการไทย ทั้งการให้ข้อมูล ช่วยเหลือการลงทุน และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชนของไทยด้วย
ขณะที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยกำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนแปลงจากนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่จะเน้นการขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรม ซึ่งเป็นโอกาสดีในการออกไปลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่น ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีและมีเทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงเป็นผู้ลงทุนอันดับ 1 ของไทย ขณะที่การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของไทยในญี่ปุ่นนั้น เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ และมีมูลค่ากว่า 110,000 ล้านเยน ซึ่งธุรกิจที่ไทยไปลงทุนในญี่ปุ่นมีทั้งอสังหาริมทรัพย์ อาหาร พลังงานทางเลือก และพลังงานทดแทน ถือว่าขยายตัวได้ดีและมีแนวโน้มการเติบโตสูง ดังนั้น ช่วงเวลานี้ผู้ประกอบการไทยเริ่มมีความแข็งแกร่ง จึงควรใช้โอกาสเข้าไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น
ขณะเดียวกันต้องการให้นักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนเพิ่มในไทยโดยเฉพาะอีอีซี ซึ่งปีหน้าจะเริ่มประมูลทั้งสนามบินอู่ตะเภา โครงการท่าเรือแหลมฉบัง โครงการรถไฟความเร็สูง ซึ่งเป็นโครงการที่น่าสนใจลงทุน และเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะทำให้เศรษฐกิจและการค้าขยายตัวต่อเนื่องและมั่นคง. – สำนักข่าวไทย