สปสช. .จับมือภาคีเครือข่าย เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการปลูกถ่ายอวัยวะ

       

นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวระหว่างเปิดการประชุม นโยบายเกี่ยวกับการปลูกถ่ายอวัยวะในประเทศไทย ว่า ตลอด 10 ปีของการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะมีความก้าวหน้ามาก โดยเฉพาะการผ่าตัดปลูกถ่ายไต     ข้อมูลปี 2559 ที่ผ่านมามีการผ่าตัดปลูกถ่ายไต ในประเทศไทยจำนวน 636 ราย เป็นผู้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไตจากผู้บริจาคที่มีชีวิต 213 ราย/และผู้บริจาคสมองตาย 423 ราย เมื่อเทียบกับปี 2549 ซึ่งมีผู้ได้รับการปลูกถ่ายไตเพียง 300 ราย เท่านั้น ชี้ให้เห็นถึงความร่วมมือของภาคีเครือข่ายต่างๆที่เข้มแข็ง  ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุขสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย สมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย   แต่ก็ยังมีผู้รอรับการบริจาค ไต กว่า 6000 รายทั่วประเทศ 

ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่ายตั้งเป้า เพิ่มประสิทธิภาพสร้างทีมแพทย์ที่มีความสามารถปลูกถ่ายอวัยวะ  รวมทั้งมีโรงพยาบาลที่สามารถปลูกถ่ายฯ ได้เป็นเครือข่ายทั่วประเทศ

 

ด้านนายแพทย์ชูชัย ศรชำนิ  รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สปสช. ให้การสนับสนุนการปลูกถ่ายอวัยวะในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ คือ ไต ตับ หัวใจ กระจกตา  นับ แต่ปี 2551ถึง 2560//จำนวนผู้ป่วยปลุกถ่ายไต 1350 ราย//-ปลูกถ่ายหัวใจ 65 ราย //ปลุกถ่ายตับ 125 ราย

//ปลุกถ่ายกระจกตา 1604 ราย    ซึ่งหากรวมทั้ง3 สิทธิการรักษาพยาบาลจะพบจำนวนผู้ได้รับการปลูกถ่าย อวัยวะ นับ 10,000 ราย

ซึ่ง สปสช.มีชุดสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ปลูกถ่ายอวัยวะและผู้บริจาค ทั้ง ก่อนและหลังการผ่าตัด โดยทิศทางความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการรับบริจาคและการปลูกถ่ายอวัยวะ มีทั้งการพัฒนาระบบเบิกจ่าย /ร่วมมือกับศูนย์บริจาคอวัยวะทั้งสภากาชาดไทย สมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทยปรับปรุงอัตราการจ่ายชดเชย /ปรับคิวผ่าตัด //ใช้เทคโนโลยีใหม่ทางห้องปฏิบัติการ  ล่าสุดมีหน่วยบริการที่ให้บริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแบ่งเป็นหน่วยบริการ

-kidney transplant 23 แห่ง หน่วยรับยากดภูมิ 25 แห่ง

-heart transplant 4แห่ง หน่วยรับยากดภูมิ4แห่ง

-liver transplant 6แห่งหน่วยรับยากดภูมิ6แห่ง

-cornea transplant 42แห่ง

-hematopoietic stem cell transplantation8แห่ง.-สำนักข่าวไทย