กรุงเทพ 22 พ.ย.-ตำรวจแจ้ง 6 ข้อหา “วรรณา สวนสัน” ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีระเบิดแยกราชประสงค์ปี 2558 เจ้าตัวยังปฏิเสธ สู้คดี เตรียมคุมส่งศาลทหาร “พล.ต.อ.ศรีวราห์” ยันจับตามหมายเร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายที่เหลือทั้งในและต่างประเทศ
นางวรรณา สวนสัน หรือ นางไมซาเราะห์ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาคดีระเบิดราชประสงค์เมื่อเหตุเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2558 ถูกควบคุมตัวมาสอบสวนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทันที ภายหลังถูกจับกุมได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิผู้ โดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.เป็นผู้สอบปากคำด้วยตัวเอง โดยเมื่อมาถึงสำนักงานตรวจแห่งชาติ มีแม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ของนางวรรณามารอรับ เมื่อพบหน้าต่างสวมเข้ากอดกันร้องไห้ ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ของ นางวรรณนา ได้มีลูกมาด้วย 2 คน อีกคนยังแบเบาะ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวขึ้นไปสอบสวนที่ชั้น 7 ทันที ก่อนสอบปากคำได้มีแพทย์เวรจาก รพ.ตำรวจ ตรวจร่างกายก่อนที่เจ้าหน้าที่จะแสดงหมายจับพร้อมแจ้ง 6 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันทาให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครอง, พาอาวุธ(วัตถุระเบิด)ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธรณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร, ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามหมายจับศาลทหารกรุงเทพ เลขที่ 84/2558 ลงวันที่ 25 ก.ย.58 โดยนางวรรณาให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ไม่มีส่วนร่วมในการดำเนินคดี ซึ่งการแจ้งข้อหาได้มีทนายจากสภาทนายความและญาติเข้าร่วมรับฟังด้วย
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า การควบคุมตัวครั้งนี้เป็นการจับกุมตามหมายจับ ส่วนกรณีที่มีข่าวถูกจับที่ประเทศตุรกีเป็นข้อเท็จจริงนอกประเทศยืนยันไม่ได้ ส่วนการทำงานระหว่างประเทศเป็นเรื่องของอัยการเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ยืนยันว่าเป็นการจับกุมตามหมาย เมื่อสืบสวนว่าเขาจะเดินทางเข้าประเทศก็ได้เชิญตัวมา กระบวนการหลัง จากนี้เจ้าหน้าที่จะได้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการศาลทหาร ซึ่งอัยการศาลทหารได้ฟ้องไปแล้ว โดยนางวรรณา เป็นคนที่ 3 ที่ถูกจับกุมได้ ต่อจากนายอาเดม คาราดัก และ นายเมียไรลี ยูซูฟู ผู้ต้องหาในคดีนี้มีทั้งหมด 17 คน รวมจับได้แล้ว 3 เหลือ 14 คน มั่นใจในพยานหลัก ส่วนการดำเนินการจับกุมคนร้ายที่เหลือ จะได้เร่งรัดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถ้าต่างประเทศเทศใช้ช่องทางอินเตอร์โพลในการติดตามตัวคนร้าย
เมื่อสอบถามไปยังนายนายอิบรอเหม คมขำ ผู้ใหญ่บ้านบุคคลที่นางวรรณาไว้วางใจให้เข้าร่วมการสอบปากคำด้วยกล่าวว่า นางวรรณา เป็นลูกบ้านที่พังงา และยังเคยเห็นนายะนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู ชาวตุรกี สามีนางวรรณาด้วย ขณะที่ไปทำ ตม.ที่จังหวัดพังงาเพื่อเดินทาทงไปตุรกี ถ้าจำไม่ผิดวันที่ 14 หรือ 15 พ.ค.58 และเดินทางไปตุรกีวันที่ 17 พ.ค. 58 ส่วนเพื่อนของ นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู ก็เคยไปบ้านในวันแต่งงานทางศาสนา แต่ไม่ทราบว่าทำงานอะไร ทราบเพียงว่าทำธุรกิจเล็กๆน้อย ๆ ส่วนการเดินทางกลับมาวันนี้ นางวรรณา ประสานงานมาที่ครอบครัวเขาแล้วตำรวจก็ประสานมา เขาอยากกลับมาต่อสู้คดีทางบ้านจึงได้ทำเรื่องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อประสานไปยังประเทศตุรกี หลังจากนั้นก็มีหนังสือประสานกลับมา เขาดีใจที่ได้กลับมาต่อสู้คดี เพราะเขากลับมาไม่ได้เขาเป็นผู้ต้องหา
ด้านนางเอมอร สวนสัน พี่สะใภ้ เปิดเผยว่า ดีใจที่น้องได้กลับมา น้องเขาไม่ได้รู้เรื่อง หลังถูกออกหมายจับก็ได้พูดคุยกับน้องอยู่ตลอดเขาก็บอกไม่รู้เรื่อง การกลับมาครั้งนี้เพื่อมาพิสูจน์ความจริง เพราะหลังถูกออกหมายจับทางการประเทศตุรกีได้กักบริเวณมาตลอด ซึ่งเขาก็พยายามกลับมาตลอดแต่ไม่สามารถกลับมาได้เนื่องจากถูกกักบริเวณ ส่วนตัวสามีเขาก็ถูกกักบริเวณเช่นกัน หลังสอบปากคำเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปขังไว้ที่ สน.ลุมพินี เพื่อส่งศาลทหารดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย