อ้างเป็น ตร.สันติบาล เก็บส่วยสติกเกอร์ร้านกล้วยทอด

นนทบุรี 21 มิ.ย. – ส.ต.ท.ชั้นประทวน 2 นาย เข้ามอบตัว ให้การปฏิเสธว่าไม่มีการเรียกเก็บส่วยร้านกล้วยทอดใน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังแม่ค้าขายกล้วยทอดถูกกลุ่มชาย 4 คน อ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินค่าดูแลแรงงานต่างด้าว 3,500 บาทต่อเดือน


แม่ค้าขายกล้วยทอดถูกกลุ่มชาย 4 คน อ้างเป็นตำรวจเรียกเก็บเงินค่าดูแลแรงงานต่างด้าว 3,500 บาทต่อเดือน ล่าสุด ส.ต.ท.ชั้นประทวน 2 นาย เข้ามอบตัวแล้ว ให้การปฏิเสธว่าไม่มีการเรียกรับส่วยร้านกล้วยทอด

แม่ค้าร้านขายกล้วยทอดใน ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เปิดคลิปให้ผู้สื่อข่าวดู เป็นภาพรถยนต์คันหนึ่งขับมาจอดบริเวณหน้าร้านและเจรจาเรื่องการเก็บเงิน พร้อมเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา น้องที่ร้านมาบอกว่าวันนี้สิบโมงกว่าๆ จะมีคนมาเก็บเงิน พร้อมกับยื่นสติกเกอร์รูปสิงโตอันเล็กๆ มีตัวหนังสือเขียนด้านหลังว่า “มิถุนายน” พร้อมกับมีลายเซ็นกำกับอยู่ด้านล่าง ก็งงว่าใครจะมาเก็บเงิน แล้วเก็บค่าอะไร และประมาณบ่ายโมงมีกลุ่มชาย 4 คน ขับรถมาจอดหน้าร้าน อ้างเป็นตำรวจมาขอเก็บเงินประจำเดือน ซึ่งก่อนนี้ไม่เคยต้องจ่ายเงินใคร สติกเกอร์แบบนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่รูปร่างหน้าตาดูดี ดูคล้ายตำรวจ นั่งรถกันมา 4 คน แต่ไม่มีใครยอมลงจากรถ ให้ลงมาคุยก็ไม่ยอม พอยืนยันว่าไม่ให้เงินก็ขับรถออกไปเลย ตอนนี้รู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย ไม่รู้ใครเป็นใคร ตอนนี้มากันทั้งนักข่าว ตำรวจ แต่ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางแม่นาง แล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย


ส่วนที่ สภ.บางแม่นาง ช่วงบ่าย 3 โมง มีตำรวจ 2 นายในคลิปเดินทางเข้ามา โดย พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ทำการสอบปากคำ คือ ส.ต.ท.ชั้นประทวน 2 นาย เหตุจากเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน เวลา 12.50 น. นายตำรวจทั้งสอง พร้อมพลเรือนอีก 2 คน ทราบชื่อคือ นายตี๋ ส่วนอีกรายยังไม่ทราบชื่อ ขับรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด 4 ประตู สีดำหมาย เรียกเก็บส่วยพนักงานต่างด้าวร้านกล้วยทอดแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา มาตรา 148 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจ หรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น มีโทษจำคุก 5-20 ปี หรือตลอดชีวิต ปรับตั้งแต่ 100,000 บาท หรือประหารชีวิต และมาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนพลเรือนอีก 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ตำรวจจะดำเนินการออกหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

ส.ต.ท.ชั้นประทวน ทั้งสองให้การว่า วันนี้ตั้งใจมาชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยตนเอง ไม่มีใครกดดันให้มา ผู้บังคับบัญชาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ วันเกิดเหตุยอมรับว่าอยู่ที่เกิดเหตุจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการเรียกรับส่วยอย่างที่มีข่าว

พ.ต.อ.สมพล กล่าวว่า นายตำรวจทั้งสองมาแสดงตัวเอง มีผู้เสียหายคือแม่ค้าขายกล้วยทอด ตอนนี้ยังไม่มีผู้เสียหายรายอื่น บุคคลตามคลิปในภาพมี 4 คน เป็นตำรวจ 2 นาย ที่มาวันนี้ ส่วนอีก 2 คน เป็นพลเรือน ตำรวจ 2 นายนี้ทำงานชุดสืบสวน ทำงานหลายส่วน ปฏิบัติหน้าที่ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย และไม่ได้อยู่ที่ สภ.บางแม่นาง ก่อนหน้านี้ยังไม่พบความผิด เรื่องนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เรื่องนี้คิดว่าคงดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่มีการช่วยเหลืออะไรอย่างที่หลายคนคาดการณ์ จะตรวจสอบโดยละเอียดของหลักฐาน อยู่ระหว่างสอบสวน หลักฐานที่มีน้ำหนักต้องสอบสวนให้ครบถ้วน เพราะเพิ่งทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก ทางตำรวจภูธรจังหวัดยังไม่พบการร้องเรียน ทางเราจะดำเนินการอย่างเฉียบขาด ตนไม่หนักใจ เพราะผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ความมั่นใจ


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำ ส.ต.ท.ทั้ง 2 นาย หลังจากสอบปากคำเสร็จ ทางตำรวจจะออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด. เสียชีวิต

คนร้ายลอบวางระเบิด ถนนศรีสาคร-จะแนะ จ.นราธิวาส รถกระบะของครูใหญ่โรงเรียน ตชด. และลูกชาย ขับผ่านมา พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนบุกมาจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนในพื้นที่

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย ด้าน “ธีรรัตน์” ต้อนรับกลับบ้านเก่า มองเป็นเรื่องน่ายินดีช่วยทำงานให้สำเร็จ ขณะที่ สก.ปชป.-ไทยสร้างไทย มาด้วย

นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 16 ม.ค.นี้

“แพทองธาร” นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 16 ม.ค.นี้ ติดตามโครงการพัฒนาพื้นที่ พบนักเรียน ประชาชน ร่วมมหกรรมแก้หนี้, พูดคุยผู้นำศาสนา-ผู้ประกอบการประมง-เร่งโครงการก่อสร้างสะพาน, ขุดลอกคลอง, โครงการเงินกู้ซอฟต์โลน

นายกฯ เรียกรัฐมนตรี-คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ประชุมกรอบงบฯ 69

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก 3 รมต.คลัง-ที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ หารือสรุปทิศทางการทำงบประมาณปี 69 มั่นใจใช้งบที่มาจากภาษีประชาชน แก้ไขปัญหาพัฒนาประเทศได้ตรงจุด