กรุงเทพฯ 21 พ.ย.-หลังศาลฎีกายืนยันไม่เปลี่ยนแปลงคำพิพากษาคดีครูจอมทรัพย์ โดยเชื่อมีขบวนการรับจ้างรับผิดแทน ทำให้เกิดคำถามตามมามากมาย ว่าเหตุใดกระบวนการหาพยานหลักฐานใหม่จึงไม่สามารถนำมาใช้วันชี้ชะตาได้ จนนำมาซึ่งการรื้อระเบียบการช่วยเหลือคดีแพะใหม่ทั้งหมด
ความเห็นที่มองต่างมุม คำตอบที่ต่างกัน นำมาซึ่งความคลางแคลงใจ และคำถามมากมาย ถึงกระบวนการทำงานของผู้รับผิดชอบการรื้อคดีครูจอมทรัพย์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จึงทำหนังสือส่งถึงปลัดยุติธรรมให้ตรวจสอบเร่งด่วน ทั้งการใช้งบประมาณในคดีนี้ การตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งก่อนและหลังการช่วยเหลือ และที่สำคัญคณะทำงานมีส่วนร่วมรู้เห็นในขบวนการรับจ้างติดคุกหรือไม่ เมื่อรู้ตั้งแต่แรกว่าเป็นขบวนการ เหตุใดยังเดินหน้าป้องคนผิด
ด้านรองปลัด ยธ.ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ยืนยันทำอย่างเต็มที่ และดีที่สุด ตามพยานหลักฐานผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ ส่วนงบประมาณลงพื้นที่ 7 ครั้งใช้เงินรวม 80,000 บาท ส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่ออกเงินเองรวมกว่า 100,000 บาท
แม้เชื่อมั่นในการทำงานอย่างสุดความสามารถ แต่เพื่อไม่ให้เกิดคำถามและข้อครหาตามมา จึงต้องสังคายนาระบบการช่วยเหลือผู้ที่อ้างตัวว่าเป็น “แพะ” ในครั้งต่อไป มีการรวมศูนย์หาหน่วยงานกลางรับเรื่อง ก่อนกระจายเรื่องไปยังส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่กระจุกอยู่ที่ “ใครคนหนึ่ง”
นอกจากรื้อระบบที่คาดว่าจะเสร็จและเริ่มใช้ได้ในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ยังตั้งคณะกรรมการสอบทีมทำงานคดีครูจอมทรัพย์ กรอบระยะเวลา 30 วัน ย้ำไม่ได้ตั้งธง หรือตั้งแง่ว่าใครกระทำความผิด แต่เพื่อตรวจสอบหาความจริงให้ปรากฏ
ส่วนคดีแพะที่มีมาร้องเรียนกว่า 200 เรื่อง อาจจะได้รับผลกระทบเรื่องความล่าช้าบ้าง แต่ขอให้มั่นใจว่ากระทรวงจะทำให้รัดกุมยิ่งขึ้น เพราะการรื้อฟื้นคดีทำได้เพียงครั้งเดียว จึงต้องดำเนินการให้ดีที่สุด.-สำนักข่าวไทย