ฟังชัดๆ นายกฯแก้ปัญหายางฯอย่างยั่งยืน


กรุงเทพฯ 18
พ.ย.- นายกฯวอนอย่านำเรื่องราคายางฯเป็นเรื่องการเมือง แจงต้องเข้าใจภาพรวมเหตุผล
รัฐเน้นแก้ปัญหายั่งยืน ทั้งส่งเสริมทำอาชีพเสริม
เกษตรผสมผสาน หนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เดินหน้าธุรกิจแปรรูปยาง ส่งเสริมแปรรูปมากขึ้น คุมลดพื้นที่ปลูกยางให้เหมาะสม 


 

 ทีมข่าวประชาสัมพันธ์ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)
ส่งเอกสารข่าว แจ้งว่า
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ถึงปัญหา
ราคายางพาราตกต่ำ จำเป็นต้องเข้าใจในภาพรวม
เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาในแนวทางที่จะร่วมมือกันได้

เรื่องที่ 1. ประเด็นราคายางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ มีความเกี่ยวโยงกันมากมายกับสถานการณ์หลายอย่าง
ที่สำคัญราคาน้ำมันในตลาดโลก จะสะท้อนต้นทุนการผลิตยางสังเคราะห์
ที่สามารถใช้ทดแทนยางธรรมชาติได้ เช่น ช่วงปี
 2540 ถึง 2548 น้ำมันราคาแพง
ทำให้ราคายางสังเคราะห์แพงตาม ส่งผลให้หลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย
หันไปส่งเสริมให้ปลูกยางพาราในประเทศมากขึ้น เพื่อลดการนำเข้ายางสังเคราะห์
แต่เมื่อราคาน้ำมันลด ราคายางสังเคราะห์ลดตาม
แต่ปริมาณการผลิตยางธรรมชาติกลับเพิ่มปริมาณ และเกินความต้องการของตลาด
เพราะกลับไปใช้ยางสังเคราะห์ที่ราคาต่ำกว่า จึงส่งผลต่อราคายางธรรมชาติ
ซึ่งเกิดขึ้นเป็นระยะๆ


เรื่องที่ 2. ประเด็นปริมาณการผลิตยางพารา สืบเนื่องจากข้อแรก ช่วงปี 2554 ถึง 2558 ทิศทางของโลกลดการผลิตลง แต่ไทยผลิตเพิ่มขึ้น
เป็นผลมาจากการส่งเสริมให้ปลูกยางพาราในอดีต
ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องเดิมที่ทำให้ผลผลิตในช่วงปัจจุบันนี้มีจำนวนมากพอสมควร
ทำให้เกิดความไม่สมดุลกัน ที่สำคัญเกษตรกรชาวสวนยางไทย จะปลูกยางเป็น
พืชเชิงเดี่ยวเป็นส่วนมาก ทำให้เมื่อราคายางผันผวน
จึงส่งผลกระทบต่อรายได้ของครัวเรือนอย่างรุนแรง
เหมือนเช่นในปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้นอยู่

ในส่วนของประเทศอื่นนั้น เกษตรกรจะปลูกพืชทางเลือกเสริมควบคู่กับการปลูกยาง เช่น มาเลเซียในระยะ 20 ถึง 30 ปีที่ผ่านมา ปลูกพืชเศรษฐกิจอื่นมากขึ้น
เช่น ปาล์มน้ำมัน
  ส่วนอินโดนีเซีย
เป็นการทำเกษตรแบบยังชีพ ควบคู่ไปกับการทำประมง
หรือทำอาชีพอื่นเสริมร่วมกับผลผลิตจากยางพารา
เมื่อราคายางลดลงผู้ปลูกยางในประเทศเหล่านี้
ก็จะชะลอการกรีดยางแล้วหันไปประกอบอาชีพอื่นเพื่อเป็นการหารายได้เข้ามาแทนไม่ใช่การกรีดยางเป็นอาชีพหลักเช่นเกษตรกรในประเทศไทย

เรื่องที่ 3. ประเด็นการใช้ยางพาราในประเทศน้อยลง เมื่อเทียบผลผลิตยางพาราของประเทศไทย เฉลี่ย 4.47 ล้านตัน มีการใช้ยางพาราในประเทศเพียง 0.60 ล้านตัน ที่เหลือเป็นการส่งออก ซึ่งทำให้ราคายางพาราต้องขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก
ซึ่งแปรผันตามปริมาณความต้องการของประเทศผู้ใช้ยาง และผูกโยงกับราคาน้ำมัน
เพิ่มความซับซ้อน จนไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด ถึงแม้ว่าประเทศไทย อินโดนีเซีย
และมาเลเซีย ถือเป็นประเทศผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ของโลก มีพื้นที่กรีดยางพารารวมกัน
 50.23 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 62.09 ของเนื้อที่กรีดยางพาราทั้งโลก
มีผลผลิตรวม
 8.56 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 63.27ของผลผลิตโลกก็ตาม  แต่อินโดนีเซีย
ที่แม้จะมีการใช้ยางพาราในประเทศน้อยมากอย่างที่กล่าวไป
การปลูกยางไม่ใช่รายได้หลัก
  ส่วนมาเลเซีย
ได้สร้างสมดุลการใช้ยางพาราในประเทศ ให้ใกล้เคียงกับผลผลิตรวม
ทั้งสนับสนุนการปลูกปาล์มน้ำมัน และการปลูกพืชเชิงซ้อนอื่นๆ อีกด้วย
เรื่องนี้เราต้องให้ความสำคัญ ต้องช่วยกันทำต่อไป

เรื่องที่ 4. ประเด็นความไม่เหมาะสมของพื้นที่ปลูกยางพารา ในปี 2559 ประเทศไทยมีพื้นที่กรีดยางราว 20 ล้านไร่ โดยเฉลี่ยอัตราผลผลิต ประมาณ 225 ถึง 245 กิโลกรัมต่อไร่ ในขณะที่พื้นที่กรีดยาง ภาคเหนือให้ผลผลิตเฉลี่ยต่ำสุด คือ 143 กิโลกรัมต่อไร่ และภาคอีสานให้ผลผลิตเพียง 185 กิโลกรัมต่อไร่ เนื่องจากอากาศ ปริมาณน้ำ และสภาพดิน
ไม่เหมาะกับการปลูกยางพารา ที่ต้องการอากาศร้อนชื้น และฝนตกชุก เหมือนภาคใต้
ทำให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย อีกทั้งปัญหาค่าขนส่งผลิตภัณฑ์ยางมาสู่ตลาดกลาง
ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ภาคใต้
ก็เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนของเกษตรกรชาวสวนยางที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

แนวทางการแก้ไขปัญหาของยางพาราเพื่อความยั่งยืน

                ส่งเสริมให้เกษตรกรชาวสวนยางประกอบอาชีพเสริม ตามแบบเกษตรทฤษฎีใหม่
เกษตรผสมผสาน การปลูกพืชแซม เช่น ไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผัก พืชไร่ พืชสมุนไพร
ที่เหมาะสมกับตลาดท้องถิ่นของตนเอง การทำ ปศุสัตว์ และประมง
ควบคู่ไปกับการทำสวนยาง เพื่อให้มีรายได้ที่หลากหลาย เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและกระจายความเสี่ยง
ลดการพึ่งพารายได้จากการทำสวนยางแต่เพียงอย่างเดียว เช่น
รัฐบาลนี้มีการสนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางรายย่อย สำหรับประกอบอาชีพเสริม
เป็นต้น ที่ผ่านมามีชาวสวนยางประกอบอาชีพเสริมประมาณ
 380,000 ราย และในปี 2560 มีชาวสวนยางหันมาทำเกษตรแบบผสมผสานมากขึ้นกว่า 3,000 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 ของจำนวนเกษตรกรทั้งหมดที่โค่นยางในปีนี้

               แต่ทั้งนี้ควรส่งเสริมการทำเกษตรแบบผสมผสานให้มากขึ้น
แล้วรัฐบาลก็จะส่งเสริมเรื่องการตลาดควบคู่ไปด้วยเช่นกัน สนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ
 รัฐจะชดเชยอัตราดอกเบี้ย
ร้อยละ
 3 ต่อปี ให้แก่สถาบันเกษตรกร
และผู้ประกอบการ ในการดำเนินธุรกิจแปรรูปยาง ทั้งเป็นเงินทุนหมุนเวียน
การปรับปรุงอาคาร การจัดหาเครื่องจักร อุปกรณ์สมัยใหม่
เพื่อจะพัฒนาศักยภาพในการส่งออกและแปรรูปยางในอนาคต ส่งเสริมให้มีการใช้ยางพาราเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ยางภายในประเทศให้มากขึ้น
 รวมทั้งได้มอบหมายให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมีการใช้ยางพาราเพิ่มขึ้นด้วย
เช่น การสร้างถนน ลานกีฬา ถุงมือยาง และอื่นๆ เป็นต้น

 

                     
นอกจากนี้ต้องควบคุมและลดพื้นที่การปลูกยางพาราให้เหมาะสม
 โดยมีเป้าหมายลดพื้นที่ปลูกยางลงปีละ 4 แสนไร่ และปลูกพืชอื่นทดแทน
เพื่อจำกัดปริมาณผลผลิตให้มีความสมดุลกับความต้องการใช้ ปัจจุบันลดพื้นที่ปลูกได้
 1.19 ล้านไร่ ลดผลผลิตได้ 0.27 ล้านตัน
ซึ่งพบว่ายังน้อยมาก เนื่องจากส่วนใหญ่เกษตรกรทำสวนยางเป็นอาชีพหลัก
ควรส่งเสริมอาชีพอื่นให้ควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะทำให้ปริมาณผลผลิตยางในตลาดโลก
ใกล้เคียงกับความต้องการ ทำให้ราคาไม่ตกต่ำมากนัก ทั้งนี้
จะเน้นการลดพื้นที่ปลูกยางในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม เช่น พื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งมีปัญหาทั้งปริมาณน้ำ
ระบบชลประทาน และการขนส่ง ที่ล้วนแต่มีต้นทุนสูง
รวมไปถึงพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ที่มีกว่า
 2 ล้านไร่ในปัจจุบัน
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทางรัฐบาลกำลังหาทางแก้ปัญหาอยู่เช่นกัน

            จัดตั้ง
การยางแห่งประเทศไทย ขึ้นเมื่อวันที่
 15 กรกฎาคม 2558 ตามพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.. 2558 ได้มีการยุบรวม 3 หน่วยงาน ก็คือ
สถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง
และองค์การสวนยาง เข้าด้วยกัน
มีภารกิจในการจัดทำยุทธศาสตร์สำหรับการบริหารจัดการยางของประเทศแบบครบวงจรให้มีประสิทธิภาพ
ขณะนี้เราก็เพิ่งเริ่มปฏิบัติงานมา อาจจะมีหลายอย่าง ถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง
เพราะว่าวันนี้ เราต้องเอาภาคเอกชนมาร่วมด้วย แต่จะทำอย่างไรให้เกิดความโปร่งใส
ซึ่งเรื่องที่ร้องเรียนกันนั้น รัฐบาลได้ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ตรวจสอบการดำเนินการต่างๆ ของ กยท
ตามที่มีการร้องเรียนแล้ว

              ความร่วมมือกับประเทศผู้ผลิตยางพาราที่สำคัญของโลก ได้แก่
อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ผ่านสภาไตรภาคียางระหว่างประเทศ
มีมาตรการควบคุมอุปทานยาง
ให้อนาคตมีปริมาณการผลิตยางพาราของแต่ละประเทศในปริมาณที่เหมาะสม
ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าปัญหาเกิดจากประเทศไทย และเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลก
จึงมีมาตรการในการควบคุมปริมาณการส่งออกยางพาราของประเทศสมาชิก
ซึ่งต้องหารือร่วมกัน บางครั้งอาจไม่เห็นชอบในทางเดียวกัน
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละประเทศ

           “ อยากให้ทุกฝ่ายในห่วงโซ่ยางพาราไทย
ได้มีความเข้าใจที่ตรงกัน ขอให้ทุกคนได้อดทน เปลี่ยนแปลง ไว้ใจซึ่งกันและกัน
มีหลักการและเหตุผล
 
ไม่ว่าจะประท้วง หรือยื่นหนังสือต่างๆ
ก็ตามขอให้ทำอย่างสงบ ไม่จำเป็นต้องมายื่นที่กรุงเทพฯ
สามารถยื่นที่พื้นที่ของท่านเองได้ เพราะจะส่งต่อมาให้รัฐบาลรับทราบอย่างแน่นอน
ไม่อยากให้เสียเวลา และสิ้นเปลือง ที่สำคัญ
ไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของการเมือง เศรษฐกิจสำคัญที่สุด
ปัญหาอยู่ที่ว่าถ้าทุกคนทำสวนยางอย่างเดียว เมื่อยางราคาไม่ดี
คุณภาพชีวิตก็ไม่ดีตาม เพราะมีรายได้จากยางเพียงอย่างเดียว ต้องคิดใหม่
จะได้แก้ปัญหาได้ร่วมกัน ตามนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกัน
รัฐบาลก็ไม่มีข้อขัดแย้ง มีรายได้มากขึ้น ประชาชน เกษตรกรชาวสวนยาง
หรือเกษตรกรอื่นๆ ก็ต้องทำเช่นเดียวกัน
พลเอกประยุทธ์
กล่าว-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย