กก.ปฏิรูปประเทศด้านสังคมจัดรับฟังความเห็นการปฏิรูปสังคมไทย สู่สังคมคุณภาพ

กรุงเทพฯ 15 พ.ย.-คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นการปฏิรูปสังคมไทย สู่สังคมคุณภาพ พร้อมนำทุกความคิดเห็นไปประกอบจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคมให้มีความครบถ้วน  และเชื่อมโยงกับการปฏิรูปประเทศด้านอื่น ๆ


วันนี้ (5 พ.ย.) คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคมจัดรับฟังความเห็นต่อประเด็นการปฏิรูปประเทศด้านสังคมจากกลุ่มสื่อมวลชนและผู้นาทางสังคม จำนวน 100 คน ณ โรงแรม ดิเอมเมอรัลด์ กรุงเทพฯ โดยมี นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม เป็นประธานในการรับฟังความคิดเห็น ร่วมกับ นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ ประธานอนุกรรมการฯ ร่วมรับฟังความคิดเห็น

โดย นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ รองประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม  กล่าวรายงานถึงความเป็นมาและบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม และการจัดเวทีรับฟังความเห็นจากประชาชนกลุ่มต่าง ๆ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาจัดทำร่างแผนปฏิรูปประเทศให้มีความครอบคลุม ครบถ้วน และสามารถบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ไปสู่ “สังคมคุณภาพ” ด้วยการสร้าง ความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม การสร้างโอกาสที่เป็นธรรมโดยไม่แบ่งแยก การเสริมสร้างพลังทางสังคม และการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสังคม


จากนั้น นายปีติพงศ์ ได้เสนอประเด็นการปฏิรูปประเทศด้านสังคมที่สำคัญภายใต้กรอบแนวคิด 3 ประการ ได้แก่ แผนการปฏิรูปที่เป็นเรื่อง ๆ แผนการพัฒนาเป็นพื้นที่ และแผนการจัดกระบวนการเพื่อขับเคลื่อนสังคม โดยแผนการปฏิรูปที่เป็นเรื่อง ๆ ประกอบด้วย 3 เรื่อง ได้แก่ 1.การปรับปรุงการออม สวัสดิการสังคม และการลงทุนทางสังคม โดยการเพิ่มประสิทธิภาพกองทุนการออมแห่งชาติ สร้างระบบให้คนไทยมีบำเหน็จบานาญที่พอเพียง ปรับปรุงระบบสวัสดิการด้านต่าง ๆ ผลักดันการดาเนินการด้านวิสาหกิจเพื่อสังคม ก่อตั้งกองทุนเพื่อการลงทุนด้านสังคม ขอให้วัดช่วยเหลือกิจการทางสังคม และปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี

นายปีติพงศ์ กล่าวว่า 2.การช่วยเหลือและเพิ่มขีดความสามารถกลุ่มผู้เสียเปรียบในสังคม อาทิ เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส โดยการปฏิรูประบบขนส่งสาธารณะเพื่อประโยชน์ของทุกกลุ่ม ปฏิรูปกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เสริมสร้างศักยภาพผู้สูงอายุ ปฏิรูประบบคุ้มครองผู้บริโภค และปฏิรูปแนวทางการให้สัญชาติไทยแก่ผู้ไร้สถานะทางทะเบียนราษฎร์ และ 3.การจัดการข้อมูลและองค์ความรู้ด้านสังคม โดยมอบหมายภารกิจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นผู้เก็บข้อมูลและบริหารข้อมูลด้านสังคม จัดการข้อมูลภาครัฐเพื่อให้มีการเปิดเผยและเชื่อมโยงระบบข้อมูลที่ภาคประชาชนกลุ่มเป้าหมายหรือชุมชนต้องการทราบหรือต้องการรับบริการรวมอยู่ในระบบ Big Data ของรัฐบาล โดยเน้นข้อมูลด้านการจัดสรรทรัพยากร และการเข้าถึงกระบวนการแก้ไขปัญหาภาครัฐเป็นเบื้องต้น และการจัดการองค์ความรู้ภาครัฐ รวมถึงความร่วมมือภาครัฐและเอกชนในการจัดการ องค์ความรู้

นายปีติพงศ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับแผนการพัฒนาที่เป็นพื้นที่ เป็นเรื่องระบบสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง โดยการกำหนดตำบลเป็นพื้นที่การพัฒนาอย่างบูรณาการ ส่งเสริมสิทธิและบทบาทชุมชน อานาจการจัดการทรัพยากรและทุนชุมชน ปรับปรุงสวัสดิการชุมชน และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ส่วนแผนการจัดกระบวนการเพื่อขับเคลื่อนสังคม เป็นเรื่องการมีส่วนร่วม การเรียนรู้ การรับรู้ และการส่งเสริมกิจกรรมทางสังคม โดยสร้างเสริมพลังคุณธรรมและทุนทางสังคม พลังสร้างสรรค์ และพลังสร้างภูมิคุ้มกัน รวมทั้งแผนการจัดการองค์กร


“ทุกความคิดเห็นของประชาชนมีคุณค่าอย่างยิ่งในการจัดทำแผนฯ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคมฯ จะนำประเด็นที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นมาใช้ประกอบการจัดทำร่างแผนแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคมให้มีความครบถ้วน และสามารถเชื่อมโยงกับการปฏิรูปประเทศด้านอื่น ๆ โดยมีกำหนดให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้านจัดทำร่างแผนปฏิรูปประเทศให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2560 อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศด้านสังคม ผ่านช่องทางเว็บไซต์ สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) www.nesdb.go.th  เฟซบุ๊ก “ร่วมปฏิรูปประเทศ” หรืออีเมล Socialreform.opinion@gmail.com รวมทั้งโทรสาร หมายเลข 0 2282 9149 (5) ส่งมาที่ สศช. วงเล็บมุมซองว่า “คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม” นายปีติพงศ์ กล่าว

นายปีติพงศ์ กล่าวอีกว่า การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งต่อไปอีก 3 ครั้ง กำหนดจัดในส่วนภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ที่จังหวัดอุดรธานี ภาคใต้ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคเหนือ วันที่ 12 ธันวาคม 2560 ที่จังหวัดเชียงราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก