กก.ปฏิรูปประเทศด้านสังคมจัดรับฟังความเห็นการปฏิรูปสังคมไทย สู่สังคมคุณภาพ

กรุงเทพฯ 15 พ.ย.-คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นการปฏิรูปสังคมไทย สู่สังคมคุณภาพ พร้อมนำทุกความคิดเห็นไปประกอบจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคมให้มีความครบถ้วน  และเชื่อมโยงกับการปฏิรูปประเทศด้านอื่น ๆ


วันนี้ (5 พ.ย.) คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคมจัดรับฟังความเห็นต่อประเด็นการปฏิรูปประเทศด้านสังคมจากกลุ่มสื่อมวลชนและผู้นาทางสังคม จำนวน 100 คน ณ โรงแรม ดิเอมเมอรัลด์ กรุงเทพฯ โดยมี นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม เป็นประธานในการรับฟังความคิดเห็น ร่วมกับ นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ ประธานอนุกรรมการฯ ร่วมรับฟังความคิดเห็น

โดย นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ รองประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม  กล่าวรายงานถึงความเป็นมาและบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม และการจัดเวทีรับฟังความเห็นจากประชาชนกลุ่มต่าง ๆ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาจัดทำร่างแผนปฏิรูปประเทศให้มีความครอบคลุม ครบถ้วน และสามารถบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ไปสู่ “สังคมคุณภาพ” ด้วยการสร้าง ความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม การสร้างโอกาสที่เป็นธรรมโดยไม่แบ่งแยก การเสริมสร้างพลังทางสังคม และการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสังคม


จากนั้น นายปีติพงศ์ ได้เสนอประเด็นการปฏิรูปประเทศด้านสังคมที่สำคัญภายใต้กรอบแนวคิด 3 ประการ ได้แก่ แผนการปฏิรูปที่เป็นเรื่อง ๆ แผนการพัฒนาเป็นพื้นที่ และแผนการจัดกระบวนการเพื่อขับเคลื่อนสังคม โดยแผนการปฏิรูปที่เป็นเรื่อง ๆ ประกอบด้วย 3 เรื่อง ได้แก่ 1.การปรับปรุงการออม สวัสดิการสังคม และการลงทุนทางสังคม โดยการเพิ่มประสิทธิภาพกองทุนการออมแห่งชาติ สร้างระบบให้คนไทยมีบำเหน็จบานาญที่พอเพียง ปรับปรุงระบบสวัสดิการด้านต่าง ๆ ผลักดันการดาเนินการด้านวิสาหกิจเพื่อสังคม ก่อตั้งกองทุนเพื่อการลงทุนด้านสังคม ขอให้วัดช่วยเหลือกิจการทางสังคม และปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี

นายปีติพงศ์ กล่าวว่า 2.การช่วยเหลือและเพิ่มขีดความสามารถกลุ่มผู้เสียเปรียบในสังคม อาทิ เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส โดยการปฏิรูประบบขนส่งสาธารณะเพื่อประโยชน์ของทุกกลุ่ม ปฏิรูปกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เสริมสร้างศักยภาพผู้สูงอายุ ปฏิรูประบบคุ้มครองผู้บริโภค และปฏิรูปแนวทางการให้สัญชาติไทยแก่ผู้ไร้สถานะทางทะเบียนราษฎร์ และ 3.การจัดการข้อมูลและองค์ความรู้ด้านสังคม โดยมอบหมายภารกิจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นผู้เก็บข้อมูลและบริหารข้อมูลด้านสังคม จัดการข้อมูลภาครัฐเพื่อให้มีการเปิดเผยและเชื่อมโยงระบบข้อมูลที่ภาคประชาชนกลุ่มเป้าหมายหรือชุมชนต้องการทราบหรือต้องการรับบริการรวมอยู่ในระบบ Big Data ของรัฐบาล โดยเน้นข้อมูลด้านการจัดสรรทรัพยากร และการเข้าถึงกระบวนการแก้ไขปัญหาภาครัฐเป็นเบื้องต้น และการจัดการองค์ความรู้ภาครัฐ รวมถึงความร่วมมือภาครัฐและเอกชนในการจัดการ องค์ความรู้

นายปีติพงศ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับแผนการพัฒนาที่เป็นพื้นที่ เป็นเรื่องระบบสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง โดยการกำหนดตำบลเป็นพื้นที่การพัฒนาอย่างบูรณาการ ส่งเสริมสิทธิและบทบาทชุมชน อานาจการจัดการทรัพยากรและทุนชุมชน ปรับปรุงสวัสดิการชุมชน และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ส่วนแผนการจัดกระบวนการเพื่อขับเคลื่อนสังคม เป็นเรื่องการมีส่วนร่วม การเรียนรู้ การรับรู้ และการส่งเสริมกิจกรรมทางสังคม โดยสร้างเสริมพลังคุณธรรมและทุนทางสังคม พลังสร้างสรรค์ และพลังสร้างภูมิคุ้มกัน รวมทั้งแผนการจัดการองค์กร


“ทุกความคิดเห็นของประชาชนมีคุณค่าอย่างยิ่งในการจัดทำแผนฯ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคมฯ จะนำประเด็นที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นมาใช้ประกอบการจัดทำร่างแผนแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคมให้มีความครบถ้วน และสามารถเชื่อมโยงกับการปฏิรูปประเทศด้านอื่น ๆ โดยมีกำหนดให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้านจัดทำร่างแผนปฏิรูปประเทศให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2560 อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศด้านสังคม ผ่านช่องทางเว็บไซต์ สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) www.nesdb.go.th  เฟซบุ๊ก “ร่วมปฏิรูปประเทศ” หรืออีเมล Socialreform.opinion@gmail.com รวมทั้งโทรสาร หมายเลข 0 2282 9149 (5) ส่งมาที่ สศช. วงเล็บมุมซองว่า “คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม” นายปีติพงศ์ กล่าว

นายปีติพงศ์ กล่าวอีกว่า การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งต่อไปอีก 3 ครั้ง กำหนดจัดในส่วนภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ที่จังหวัดอุดรธานี ภาคใต้ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคเหนือ วันที่ 12 ธันวาคม 2560 ที่จังหวัดเชียงราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย