ลำปาง 13 พ.ย.-เหยื่อมือผ่าตัดหมอดิวเถื่อนส่อเจรจาค่าเสียหายวืด หลังเจรจากันเกือบครึ่งวันเพื่อตกลงค่าเสียหายแต่ยังไม่เป็นผล ฝ่ายหมอดิวตัวปลอมกลับตั้งเงื่อนไขเพิ่มเรื่อยๆ จนฝ่ายผู้เสียหายรับไม่ได้ พนักงานสอบสวนนัดเจรจาอีกครั้ง
หลังจากเกือบตลอดทั้งวันที่ผ่านมาที่ สภ.เขลางค์นคร ทางพนักงานสอบสวน สภ.เขลางค์ ได้ให้พ่อแม่และญาติผู้เสียหาย ของนายจิรัชญา คำพูน หรือน้องแม็กกี้ สาวประเภทสอง วัย 22 ปี ชาว จ.ลำพูน เสียชีวิตจากการเข้าทำศัลยกรรมที่ ดีไวน์คลินิกเวชกรรม จังหวัดลำปาง มาเจรจากับฝ่ายของ นายธนัชพงศ์ จิตรธีรภิรมย์ หรือ ดิว ซึ่งแอบอ้างเป็น นายแพทย์จิรเดช เกตุรัตนกุล หมอศัลยกรรม ซึ่งตำรวจกองปราบปรามจับตัวได้และนำตัวส่งมายัง สภ.เขลางค์เพื่อดำเนินคดี
จากการเข้าเจรจากันต่อหน้าพนักงานสอบสวนรวมถึงสามรอบเกือบทั้งวัน จนถึงเวลา 15.00 น. ปรากฏว่าการเจรจากลับไร้ผลเมื่อฝ่ายญาติของผู้เสียหายไม่พอใจ จากที่ก่อนหน้านั้นทั้งสองฝ่ายตกลงว่า ฝ่ายผู้ต้องหาตกลงจ่ายค่าเสียหายให้เป็นเงินรวม 2 ล้านบาท โดยตกลงจ่ายเป็นเงินสด 500,000 บาท ให้เสร็จสิ้นภายในหนึ่งเดือน ส่วนอีก 1.5 ล้านบาท จะผ่อนชำระให้เสร็จภายใน 3 ปี ซึ่งผู้เสียหายก็พอใจ แต่ขอให้มีญาติรับประกันว่าหากต่อไปนายดิว หลบหนีหรือไม่มีการชำระผู้รับประกันต้องรับผิดชอบ แต่ญาติกับผู้ต้องหากลับไม่ยินยอม กลับเพิ่มเงื่อนไขว่า หากส่วนที่เหลือที่จะต้องผ่อนชำระในยอด 1.5 ล้านบาท ภายใน 3 ปี หากผู้ต้องหาถูกพิพากษาให้ติดคุกก็ขอให้ผู้เสียหายรอจนกว่าจะพ้นคุกออกมาก่อน และหากระหว่างนี้ผู้ต้องหาเสียชีวิตก่อนก็ให้ยกเลิกเงื่อนไขเหล่านั้น จนทำให้ฝ่ายผู้เสียหายไม่พอใจและได้ออกจากห้องสอบสวนเพื่อให้พ่อแม่ของผู้ตายได้ตัดสินใจอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ขณะที่ นางสาวจันทร์จิรา ธิวงศ์เงิน หรือมะปราง ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของคลินิกวันนี้ได้ยอมเปิดปากพูดแล้วว่าก่อนหน้านี้หลังเกิดเรื่องตนเองกลัวไม่รู้จะทำอย่างไรแต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้ว และคงเดินหน้าต่อสู้คดีต่อไป ยอมรับว่าเป็นเพียงพนักงานร้านทำหน้าที่ทำบัญชี และประชาสัมพันธ์ชักชวนลูกค้าเท่านั้น ก่อนไปจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดและสถานพยาบาล นายดิวได้ให้ความหวังว่าจะสร้างอนาคตที่ดีซื้อบ้านรถให้ ตนเองก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเรื่องในลักษณะนี้เกิดขึ้น ส่วนบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อตนเองนั้นก็เปิดเพื่อรับเงินจากลูกค้า แต่นายดิว จะเป็นผู้ถือบัตรเอทีเอ็มไว้ในการกดเงินเอง สำหรับคลินิกที่เปิดที่ทราบคือมี 3 สาขา คือ กรุงเทพ สระแก้วและลำปาง
รอบสุดท้ายเมื่อเวลา 16.00 น. ฝ่ายผู้เสียหายได้ออกจากห้องสอบสวนโดยไม่มีการตกลงใดๆ เพิ่มเติมอีก โดยระบุว่ารับกับเงื่อนไขไม่ได้ และเห็นว่าการเจรจาในลักษณะนี้เป็นการเลี่ยงความรับผิดชอบ ตนเองมาในวันนี้ต้องเดินทางมาจากจังหวัดลำพูนมีค่าใช้จ่ายและมาก็เพื่อมารับการเยียวยา ไม่ใช่มาเพื่อรับเงื่อนไขตามที่ฝ่ายผู้ต้องหายื่นเสนอ หากยังตกลงกันไม่ได้ก็ขอยุติการเจรจาไว้ก่อน โดยพนักงานสอบสวนจะนัดมาตกลงกันอีกครั้ง
ด้านนายจิรเดช เกตุรัตนกุล หรือดิวตัวจริง จะเดินทางมาให้ข้อมูลและยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา นายดิว ตัวปลอมที่ทำให้ตนเองเสียหายในวันพรุ่งนี้
ก่อนหน้านี้ นายธนัชพงศ์ จิตรธีรภิรมย์ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่ติดตามไปทำข่าวด้วยอาการสำรวมและยกมือไหว้เกือบตลอดเวลา โดยเจ้าตัวยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา ยอมรับเป็นผู้ลงมือทำการผ่าตัดจริง และพร้อมจะเยียวยาผู้เสียหายทุกคนอย่างเต็มความสามารถ แต่ยังยืนยันว่าตนเองไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายใคร ตนเองเจตนาดีและต้องการให้ผู้ที่ต้องการสวยในราคาถูกเข้าถึงได้ ในสาขาลำปางมีลูกค้าที่เป็นสมาชิก 1,500 ราย ที่ผ่านมาเรียนจบด้านท่องเที่ยวและด้วยที่รักและชอบด้านนี้จึงได้ไปเรียนด้านทำศัลยกรรมกับสถาบันแห่งหนึ่งที่เปิดสอนด้านนี้แต่ไม่มีใบอนุญาต และตนเองไม่ได้เป็นหมอ แต่ได้เข้าฝึกทำการศัลยกรรมกับแพทย์หลายๆ ท่านขณะทำการผ่าตัดในกรณีทำศัลยกรรมต่างๆ จนชำนาญและสามารถทำได้เอง จึงลงมือทำเองแต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะทำไปตลอดด้วยที่ตนเองเป็นเจ้าของธุรกิจอยู่แล้ว หากเปิดสาขาลำปางถึงสิ้นปีนี้ตนเองก็จะหยุดทำและจะให้แพทย์จริงมาเป็นผู้ดำเนินการแทน
ส่วนดีไวน์คลินิกเวชกรรม เป็นของตนเอง ส่วนมะปรางที่มีชื่อเป็นเจ้าของเป็นเพียงผู้ยื่นจดทะเบียนด้านเอกสารเท่านั้น ส่วนที่บอกว่าก่อนหน้านี้เป็นผู้ดูแลหรือเป็นเสาหลักของครอบครัวนั้น นายธนัชพงศ์ จิตรธีรภิรมย์ ได้พูดด้วยน้ำตาคลอว่า เป็นเรื่องจริง หลังจากที่เรียนจบเมื่อ10ปีก่อนก็เป็นผู้ดูแลครอบครัวมาโดยตลอดไม่เคยขาดตกบกพร่อง เรื่องนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้น หากตนเองไม่มั่นใจจะไม่ทำเลย เปรียบเหมือนหมอตำแย มีความสามารถ รักด้านนี้ และลงทุนกับเครื่องมือไปมหาศาลเท่าที่ตนเองหามาได้ ก็อยากทำให้ดี และไม่เคยติดว่าจะเกิดความผิดพลาดแบบนี้ขึ้นมา ส่วนนายแพทย์จิรเดช ตัวจริงเคยทำงานที่คลินิกที่กรุงเทพฯ แต่ที่ลำปางไม่เคยมาแต่อย่างใดและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรืองที่เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย
