กรุงเทพฯ 13 พ.ย.-รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับมีผู้มีอิทธิพลบนเกาะหลีเป๊ะขัดขวางการทวงคืนพื้นที่โรงพัก
พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และฝ่ายปกครองจังหวัดสตูล ลงพื้นที่รังวัดที่ดินพิพาทบนเนื้อที่ 10 ไร่ ที่ สภ.เกาะหลีเป๊ะ ทำเรื่องขอใช้ที่ดินบนเกาะกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อปี 2532 เพื่อสร้างศูนย์ปฏิบัติงานและที่พักของตำรวจ ศูนย์ประสานงานและช่วยเหลืออุบัติภัยทางทะเล และหน่วยบริการประชาชน แต่ต่อมาถูกนายทุนเจ้าของรีสอร์ทขยายพื้นที่ก่อสร้างที่พักเพิ่มเติม ทำให้พื้นที่ของ สภ.เหลือเพียง 200 ตารางวา
พลตำรวจเอกวิระชัย กล่าวว่า หลังจากเมื่อวานได้นำเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดสตูลมารังวัดที่ดินที่กรมป่าไม้อนุญาตให้ตำรวจใช้พื้นที่เพื่อสาธารณประโยชน์ จำนวน 10 ไร่ และพบว่านายทุนสร้างรีสอร์ทหรูรุกล้ำที่ดินที่แปลงดังกล่าวถึง 9.5 ไร่ สร้างผลประโยชน์หลายร้อยล้านต่อปี และยังถูกยื่นฟ้องตำรวจเป็นจำเลยว่ารุกล้ำที่ดินของตน แต่สุดท้ายศาลฎีกายกฟ้อง ชี้ตำรวจได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ถูกต้อง แต่เป็นที่น่าสงสัยว่าผู้ฟ้องได้เอกสารสิทธิบนที่ดินแปลงดังกล่าวมาได้อย่างไร ทั้งที่ ภาพถ่ายดาวเทียมชี้ชัด ไม่พบร่องรายการทำกินบนที่ดินพิพาทก่อนสร้าง สภ.หลีเป๊ะ ตามที่กล่าวอ้างว่าบรรพบุรุษอาศัยและทำกินบนที่ดินผืนนั้นมาหลายสิบปี อีกทั้งยังกล้าฟ้องขับไล่ตำรวจทั้งที่ได้สิทธิในที่ดินมาโดยมิชอบ
วันนี้จะให้เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดสตูลทำการรังวัดพื้นที่ 10 ไร่ ตามที่ขอเอาไว้กับกรมอุทยานฯ ว่ามีนายทุนรายใดสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำเข้ามา ซึ่งหากพบก็จะดำเนินการใช้มาตรการทางกฎหมาย ฟ้องร้องทั้งทางอาญาและทางแพ่ง พร้อมให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ นอกจากนี้ จะมีการตรวจสอบถึงที่มาของการออกเอกสารสิทธิว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าเอกสารสิทธิที่เจ้าของที่ดินถือครองไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็จะต้องถูกดำเนินคดี รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการได้มาของเอกสารสิทธิด้วย
สำหรับยุทธการทวงคืนพื้นที่หลวงในครั้งนี้ พลตำรวจเอกวิระชัย ยอมรับว่า ถูกข่มขู่จากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทั้งการนำชาวบ้านในพื้นที่มาปิดล้อมเกาะเพื่อกดดันให้ตำรวจออกจากพื้นที่ แต่ก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าทวงคืนที่ดินต่อไป เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ แม้จะมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังก็ตาม พบว่ามีอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดเป็นผู้หนุนหลัง ออกหน้าและเอื้อประโยชน์ให้นายทุนทุกเรื่อง พร้อมสั่งให้พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกข้าราชการที่มีส่วนพัวพันมาให้ปากคำ หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นก็จะร้องขอออกหมายจับเพื่อดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย