กรุงเทพฯ 12 พ.ย.- นายกรัฐมนตรี เตรียมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 31 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยไทยเตรียมผลักดันประเด็นครอบคลุมการพัฒนาศักยภาพของประชาคมอาเซียน ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกำหนดการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 31 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงมะนิลาสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 13-14 พฤศจิกายน 2560 ว่า การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 31 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง เป็นการประชุมที่เกี่ยวข้องกับผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 2 ภายใต้การเป็นประธานอาเซียนของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ในปีนี้ ซึ่งเป็นปีครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียน ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ นอกจากการประชุมของผู้นำอาเซียนแล้ว ยังเป็นการประชุมร่วมกับผู้นำของประเทศคู่เจรจาของอาเซียน โดยมีผู้นำจาก จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐ รัสเซีย และสหประชาชาติ รวมทั้งผู้นำต่างประเทศที่เป็นแขกพิเศษของประธานคือ แคนาดาและสหภาพยุโรป เข้าร่วมด้วย
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มี วัตถุประสงค์เพื่อประเมินสถานการณ์โลกในปัจจุบันแล้วร่วมกันกำหนดทิศทางความร่วมมือเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับแต่ละประเทศคู่เจรจา ขับเคลื่อนกรอบความร่วมมือต่าง ๆ ที่มีอาเซียนเป็นแกนกลาง เช่น การประชุมอาเซียนบวกสาม และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกเพื่อให้สามารถบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลงในภูมิภาค และเพื่อหามาตรการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงเศรษฐกิจและสังคม ที่มีผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและกับประชาคมโลก
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่อาเซียนให้ความสำคัญ คือการที่จะใช้กรอบการประชุมต่าง ๆ ทั้งในกรอบอาเซียนบวกหนึ่ง อาเซียนบวกสาม และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก เพื่อเป็นเวทีในการโน้มน้าวให้ประเทศนอกภูมิภาค สนับสนุนกระบวนการสร้างประชาคมอาเซียนและนโยบายสำคัญต่าง ๆ ของอาเซียน เช่นการส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาค การส่งเสริมระเบียบการค้าและการลงทุนที่จะส่งเสริมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง และการส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์ในภูมิภาค
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ในฐานะเจ้าภาพได้กำหนดธีมงาน สำหรับการประชุมอาเซียนในปีนี้ว่า “Partnering for change ,Engaging the world” หุ้นส่วนการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างความสัมพันธ์ของโลก และกำหนดประเด็นสำคัญๆ ดังนี้ การสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง การส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงภายในภูมิภาค การส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเล การส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและนำโดยนวัตกรรม การส่งเสริมความเข้มแข็งในภูมิภาค และการส่งเสริมให้อาเซียนเป็นต้นแบบในการรวมตัวกันในระดับภูมิภาคและมีบทบาทสำคัญในระดับโลก โดยในการประชุมนี้จะมีเอกสารสำคัญ ที่ผู้นำจะลงนามสองฉบับ ได้แก่ ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยนวัตกรรม และฉันทามติอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของแรงงานต่างด้าว
พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่ฝ่ายไทยจะผลักดันในที่ประชุมต่าง ๆ คือเรื่องการพัฒนาศักยภาพของประชาคมอาเซียน ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาความท้าทาย ทั้งจากในและนอกภูมิภาค เพื่อให้อาเซียนสามารถมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีพลวัตและการพัฒนาที่ยั่งยืน การย้ำความสำคัญของการที่อาเซียนจะต้องมีเอกภาพ เพื่อสามารถคงไว้ซึ่งความเป็นแกนกลางของอาเซียนในโครงการสถาปัตยกรรมในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค และศักยภาพของอาเซียนในการบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลงในภูมิภาค โดยส่งเสริมระบบภูมิภาคนิยมและพหุภาคีนิยม และการปูทางให้ทั้ง 10 ประเทศ สมาชิกอาเซียนจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อไป ในช่วงหลังวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ.2025 เพื่อส่งเสริมประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริงและเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์และไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง .-สำนักข่าวไทย .