ทำเนียบรัฐบาล 11 พ.ย.-พล.อ.อุดมเดชมั่นใจนายกฯ ประชุมครม.สัญจรใต้ 27-28 พ.ย.นี้เรียบร้อย ยืนยันสถานการณ์ดีขึ้น ส่วนเหตุวิสามัญแนวร่วม 2 รายที่อ.สายบุรี จนท.ทำตามขั้นตอน
พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีพลงองประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะลงพื้นที่จ.ปัตตานีและประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในพื้นที่จ.สงขลา ระหว่างวันที่ 27-28 พฤศจิกายน นี้ ว่า นายกรัฐมนตรีจะติดตามการทำงานเพื่อเร่งรัดให้มีความก้าวหน้าในทุก ๆ ด้าน ซึ่งในส่วนของภาคใต้นอกจากพื้นที่ 14 จังหวัดแล้ว พื้นที่สำคัญ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกหน่วยงานได้ทำงานกันอย่างเต็มที่
“จากการที่ผมได้มีโอกาสลงไปสัมผัสในพื้นที่ ยืนยันได้ว่าเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นทุกด้านและเชื่อว่าจะดีขึ้นต่อไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่รับผิดชอบอยู่ ทุกฝ่ายตั้งใจกันเต็มที่ ส่วนรายละเอียดการเตรียมลงพื้นที่ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจง ยืนยันจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อย สอดคล้องกับความเป็นจริงในพื้นที่ ส่วนเรื่องการรักษาความปลอดภัยไม่น่าเป็นห่วง กองทัพภาคที่4 เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงดูแลพื้นที่อยู่แล้ว” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว
พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่มีความปลอดภัย ชี้วัดได้จากการวิ่งของนายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม แม้มีกลุ่มเห็นต่าง พยามสร้างสถานการณ์ แต่ภาพรวมไม่น่าเป็นห่วง ทุกคนในพื้นที่ยินดีที่จะมีการประชุมครม.สัญจรในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ทำให้ทุกคนได้รับรู้ในสิ่งต่าง ๆ และส่วนราชการจะได้ทราบแนวทางที่ชัดเจนจากระดับนโนบายมากขึ้น
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่วิสามัญกลุ่มแนวร่วม 2 รายที่อ.สายบุรี จ.ปัตตานีเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเป็นเงื่อนไขให้ก่อเหตุอีกหรือไม่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การปิดล้อมตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ทำตามขั้นตอน แม้ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีที่ผิดพลาดจนนำมาสู่การเยียวยา จึงได้เน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติ ปิดล้อมตรวจค้น ต้องให้โอกาส รับทราบความเป็นจริง ทั้งการเปิดโอกาสให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ให้ผู้นำท้องถิ่นช่วยชี้แจงผู้นำศาสนา ครอบครัว พูดคุยเจรจาให้ออกมา แต่เมื่อทำตามลำดับ แต่ยังสร้างความรุนแรง ก็ต้องทำตามแนวทางปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง
“ได้รับรายงานว่าทำตามขั้นตอนทุกประการ ดังนั้น จึงไม่ห่วงอะไร ขณะที่ผู้ตายก็มีหมายกระทำความผิดหลายหมาย จึงเป็นความจำเป็นของเจ้าหน้าที่ ไม่มีใครอยากให้เกิดความรุนแรง พยามไม่ใช้กำลัง แต่เมื่อจำเป็นก็เป็นไปตามขั้นตอน ขอให้มั่นใจว่าฝ่ายความมั่นคงไม่ทำอะไรที่เป็นเงื่อนไข ส่วนผู้ต้องหาที่จับได้1 คนจะขยายผลไปสู่เครือขข่ายได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 อยู่ระหว่างการขยายผลสืบสวนเก็บหลักฐานข้อมูล กอรมน.ภาค4 ส่วนหน้าร่วมกันตรวจสอบ คาดว่าเร็ว ๆ นี้จะทราบว่าสามารถขยายผลไปในทิศทางใด” พล.อ.อุดมเดชกล่าว.- สำนักข่าวไทย
