“เรืองไกร” ร้องศาล รธน. สั่งนายกฯ เลิกขัดขวางสิทธิเสรีภาพทางการเมือง

ศาลรัฐธรรมนูญ 10 พ.ย.-“เรืองไกร” ร้องให้ศาล รธน. สั่งนายกรัฐมนตรี หยุด-เลิกขัดขวางสิทธิเสรีภาพทางการเมือง ด้วยการปลดล็อคพรรคการเมือง ชี้ขัดรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเป็นบรรทัดฐานไว้


ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลรัฐธรรมนูญ ว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (10 พ.ย.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย เดินทางมายื่นคำร้องใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ยกเลิกประกาศ คสช.ที่ 57 /2557  และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 เข้าข่ายเป็นการกระทำขัดขวาง ไม่ให้พรรคการเมือ นักการเมือง ดำเนินการกิจกรรมทางการเมือง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560  ถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคล ตามมาตรา 45 และเป็นการกระทำตามมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญ หรือไม่

นายเรืองไกร กล่าวว่า นับแต่ พ.ร.ป.พรรคการเมือง มีผลใช้บงคับเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2560 และมีการกำหนดระยะเวลาให้พรรคการเมืองในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ แต่หัวหน้า คสช.กลับมีท่าทีที่จะยังไม่ต้องการให้มีการปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมเหล่านั้นได้ และมีการให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า หากพรรคการเมืองดำเนินการไม่ทันตามที่กฎหมายกำหนด ก็จะขยายเวลาให้ โดยได้พิจารณาแล้วว่าไม่ขัดต่อสิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด


“ในเรื่องของสิทธิเสรีภาพทางการเมือง บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 45 โดยให้บุคคลมีสิทธิเสรีภาพทางการเมืองตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งกฎหมายนั้นก็คือ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่คุ้มครองให้พรรคต้องทำกิจกรรมตามห้วงเวลาตามที่กฎหมายกำหนด แต่หัวหน้า คสช. หรือท่านนายกฯ กลับมาบอกว่าตรงนี้ยังไม่ได้ดำเนินการ ทำให้ต้องมาร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของการกระทำต้องห้าม ตามมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญ จึงต้องมาร้องต่อศาล เพราะผมเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ถือเป็นผู้ที่รับผลกระทบโดยตรง เพราะการที่ไม่ปลดล็อก ถือว่าขัดต่อเสรีภาพของบุคคล จึงขอให้ศาลวินิจฉัยแล้วสั่งให้หัวหน้า คสช. หรือนายกรัฐมนตรี หยุดและเลิกกระทำนั้นเสีย แล้วให้พรรคการเมือง หรือคนที่ประสงค์จะตั้งพรรคการเมืองได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด” นายเรืองไกร กล่าว

นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า การที่หัวหน้า คสช. อ้างว่า ประกาศ คสช.ที่ 57 /2557 และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ยังมีผลใช้บังคับอยู่ได้นั้น ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 3 กำหนดไว้อยู่แล้วว่า หากกฎหมายนั้นมีผลบังคับใช้ กฎหมายอื่นใดที่ขัดหรือแย้งก็ให้สิ้นสภาพไป ดังนั้นจะต้องถือว่าทั้ง 2 คำสั่ง คือ คำสั่งที่ 57 ที่ออกโดย พ.ร.ป.พรรคการเมืองปี 2550 และคำสั่งที่ 3 เป็นคำสั่งที่ห้ามเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งมาตรา 3 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง บัญญัติว่ากฎหมายใดที่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายนี้ให้สิ้นสภาพไป ดังนั้นคำสั่งที่ 57 ก็ไม่สามารถที่จะมาบังคับใช้ได้อีก ขณะเดียวกันคำสั่งที่ 3 ก็ไม่น่าจะมาใช้ได้ เพราะคำสั่งที่เป็นเรื่องการชุมนุม ไม่เกี่ยวกับการประชุมพรรคการเมือง อีกทั้งมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ ที่ 12/52 ที่เคยวินิจฉัยเรื่องสิทธิเสรีภาพ ไว้ว่าในการประกอบกิจการที่ประกาศคณะปฎิวัติห้ามไว้ หากรัฐธรรมนูญใหม่ใช้บังคับ ก็ให้ประกาศนั้นสิ้นสภาพไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำวินิจฉัยที่นายเรืองไกรอ้าง เป็นกรณีที่ผู้ประกอบกิจการร้านข้าวต้ม  ไอ-เฮีย ถูกจับกุม ฐานขายอาหารและเครื่องดื่มในเวลาห้าม ขัดประกาศคณะปฎิวัติ ฉบับที่ 252 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2515  ซึ่งผู้ประกอบกิจการได้ร้องต่อศาลยุติธรรม ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าประกาศฉบับดังกล่าว ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ 2540 มาตรา 29  และ 43  ซึ่งเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับเรื่องสิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญให้การรับรองไว้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง