นายกฯ แจงไม่ปลดล็อก -ไม่ตั้งพรรคการเมือง

ทำเนียบฯ 7 พ.ย.- นายกรัฐมนตรีชี้แจง คสช. ยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมืองทำกิจกรรม ชี้ สถานการณ์บ้านเมือง ยังไม่ถึงเวลาที่จะมีความขัดแย้งอีก ระบุ คสช. ไม่มีแนวคิดตั้งพรรคการเมืองในเวลานี้  ขอพิจารณาสถานการณ์ก่อน ยังมีเวลาอีกกว่า 1 ปี 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงผลการประชุม คสช.เมื่อช่วงเช้า พร้อมแจกเอกสารคำชี้แจงอย่างละเอียดให้กับสื่อมวลชน ถึงความจำเป็นที่ยังไม่ปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ว่า คสช.พิจารณาประเมินสถานการณ์บ้านเมืองมาเป็นระยะจนถึงเช้าวันนี้และจะประเมินต่อไปทุกระยะ ซึ่งมีความเห็นในขณะนี้ว่า สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย บ้านเมืองยังอยู่ระหว่างห้วงเวลาที่ยังไม่ควรมีความขัดแย้งทางการเมืองหรือทางอื่นใด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  กฎหมายลูกสองฉบับสุดท้ายที่จำเป็นต่อการเลือกตั้งก็ยังไม่เรียบร้อย และยังไม่เข้าสู่ สนช.  กกต.ชุดใหม่ 7 คน ยังอยู่ระหว่างการสรรหา ไม่รู้ว่าจะได้เมื่อใด  นายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญทางกฏหมายพรรคการเมือง ก็ยังไม่มีแม้แต่ผู้รักษาการแทน จึงขอให้การปลดล็อกที่พูดกันรอไปอีกระยะ อย่าตื่นเต้น กังวล ในระหว่างนี้ คสช.ให้คำยืนยันว่า ทุกอย่างยังคงเดินหน้าไปตามโรดแมป คือจัดให้มีการเลือกตั้งใน 150 วัน นับจากเมื่อกฎหมายเลือกตั้ง  ใน 4 ฉบับที่จำเป็นมีผลบังคับใช้ ส่วนกฎหมายจะเสร็จเมื่อไรให้ไปถาม ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนที่พรรคการเมืองเกรงว่า จะทำกิจกรรมพรรคการเมืองไม่ทันภายในระยะเวลา 90 วัน หรือ 180 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งนั้น ทาง คสช.ทราบเรื่องนี้ดี และขออย่าได้กังวล เพราะได้หารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด  ซึ่งระยะวลาดังกล่าว เป็นเรื่องที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดขึ้น ไม่ได้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ จึงอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างเหมาะสมได้ ซึ่งในกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 141 นายทะเบียนพรรคการเมืองเพียงคนเดียว ก็สามารถอนุญาตให้ขยายเวลาดังกล่าวเป็นกรณีไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คสช. ยืนยันจะไม่ทำให้เกิดความเสียหาย หรือกระทบต่อพรรคการเมืองใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเก่าหรือพรรคที่ตั้งใหม่เป็นอันขาด โดยจะใช้มาตรการพิเศษที่ คสช.มี หรือ จะใช้มาตรการอื่น ๆ ทางกฎหมาย ตามวิถีทาง ที่รัฐธรรมนูญคลี่คลายปัญหาให้ โดยจะต้องปรึกษากับ กกต. และยืนยันว่าจะไม่ให้ประกาศ คสช.ที่ 57/2557 หรือ คำสั่ง คสช. ที่ 3 /2558 เป็นอุปสรรค หากแต่จะให้ทุกอย่างสอดคล้องและเดินหน้าไปด้วยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้ง หรือ ความสามัคคีปรองดอง เพื่อให้เกิดความสงบสุขในสังคม ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าเรื่องใดก็ตามหากเป็นการดำเนินการของพรรคการเมืองที่จำเป็นต้องทำ ตนคงไม่เพิกเฉย จนเกิดปัญหาขึ้น เพราะส่วนตัวมีอำนาจขยายระยะเวลาต่าง ๆ ได้ ที่สำคัญ การพิจารณากฎหมายตนไม่สามารถสั่งการ กรธ. หรือ สนช.ได้ แต่อยู่ที่ปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งการจะปลดล็อกได้เมื่อไร ก็จะต้องพิจารณาต่อไป 


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตั้งพรรคการเมืองว่า  คสช. ไม่มีแนวคิดตั้งพรรคการเมืองในเวลานี้  จะขอพิจารณาสถานการณ์ก่อน เนื่องจากยังมีเวลาอีกกว่า 1 ปี ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น และหากรัฐบาลหรือตนจะดำเนินการต่อไปหลังจากนี้ ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาด้วยวิจารณญาณว่า จะวางบทบาทของตนอย่างไร ไม่ใช่ตัดสินใจกลับไปกลับมา 

“วันนี้ขอสื่อมวลชน อย่าตั้งคำถามเรื่องนี้กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ผมยืนยันว่าวันนี้ไม่ตั้งพรรคการเมือง และไม่ต้องถามต่อว่า วันหน้าจะตั้งหรือไม่ เพราะจะทำให้มีคำถามไม่จบสิ้น ซึ่งขณะนี้บ้านเมืองต้องการความสงบเพื่อเดินหน้าปฏิรูป เพื่อส่งต่องานให้กับรัฐบาลหน้า ยืนยันว่า ผู้ที่จะมาเป็นรัฐบาลก็ต้องเป็นนักการเมืองตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น จึงไม่มีเรื่องของการเอื้อประโยชน์หรือเสียประโยชน์ใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

นายกรัฐมตรี กล่าวถึงกลุ่มพลังชาติไทย ที่ตั้งโดย พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ ว่า ไม่เคยได้ยินกลุ่มดังกล่าว หรือรู้จักเป็นการส่วนตัว และได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมตรวจสอบว่ามีการแอบอ้าง คสช.เพื่อหวังผลใด ๆ หรือไม่ และไม่มีความจำเป็นที่พรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมืองใดต้องสนับสนุน คสช. วันนี้มีพรรคการเมืองหลายพรรค รวมไปถึงพรรคการเมืองใหม่ พรรคทางเลือกใหม่ ซึ่งวันนี้ต้องหาทางออกให้ประชาชนมีทางเลือกใหม่ ๆ อย่าไปส่งเสริมหรือสนับสนุนแบบเดิม ๆ  แล้วทำให้ปัญหาพันอยู่แบบเดิม ๆ  ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้เลือก.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.โชว์ความพร้อมของเครื่องบินโจมตี แอลฟาเจ็ต

กทม. 19 ส.ค.-ทอ.โชว์ความพร้อมของเครื่องบินโจมตี แอลฟาเจ็ต (Alpha Jet TH) หรือที่รู้จักกันในนาม “Hunter” “นักล่า ผู้พิฆาตไพรี” พร้อมเสิร์ฟไข่เบอร์ศูนย์ให้กับผู้รุกรานประเทศไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจกองทัพอากาศไทย ได้โพสต์ข้อความพร้อมปฏิบัติการของเครื่องบินโจมตีแอลฟาเจ็ต (Alpha Jet TH) ฝูงบิน 231 กองบิน 23 ระบุว่า พร้อมปฏิบัติการด้วยจิตใจที่ห้าวหาญของนักรบทางอากาศ และศักยภาพของเครื่องบินโจมตีแบบที่ 7 (Alpha Jet TH) ที่ได้รับการปรับปรุงขีดความ ให้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธีได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยสามารถใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายภาคพื้นได้อย่างแม่นยำ เพื่อดำรงให้กองทัพอากาศไทย มีความพร้อมในการรับมือต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคง ในการพิทักษ์รักษาอธิปไตย ผลประโยชน์แห่งชาติ และปกป้องพี่น้องประชาชนให้ปลอดภัยจากการรุกรานของข้าศึกศัตรู ดังคำกล่าวที่ว่า “น่านฟ้าไทย จะไม่ให้ใครย่ำยี”.-313.-สำนักข่าวไทย

ทบ. แจงกระสุนฟอสฟอรัสขาว (WP) ไม่ใช่อาวุธเคมี

กองทัพบก 19 ส.ค.-ทบ. แจงกระสุนฟอสฟอรัสขาว (WP) ไม่ใช่อาวุธเคมี หลัง CMAC กัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริง พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีนายเฮง รัตนา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งกัมพูชา (CMAC) เผยแพร่ข้อมูลอ้างว่า ผู้เชี่ยวชาญของ CMAC ตรวจพบกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มิลลิเมตร บรรจุสารฟอสฟอรัสขาว (White Phosphorus – WP) ในพื้นที่จังหวัดอุดรมีชัย พร้อมทั้งกล่าวหาว่าเป็นผลจากการยิงของกองทัพไทยในช่วงความขัดแย้ง 5 วัน และเป็นกระสุนที่มีลักษณะเป็นอาวุธเพลิงและก่อควันพิษ โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ปราศจากหลักฐานสนับสนุน และไม่มีน้ำหนักทางกฎหมาย พร้อมชี้แจงว่า กระสุนฟอสฟอรัสขาว (WP) มีวัตถุประสงค์หลักในการใช้สร้างควัน แสงสว่าง ระเบิด และเพลิง ไม่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มอาวุธเคมีตามอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention – CWC) อีกทั้งไม่มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศใดที่ห้ามการเก็บรักษาหรือการใช้งานกระสุนชนิดนี้ ประเทศไทยจึงสามารถเก็บรักษาและใช้ตามภารกิจทางทหารได้ภายใต้กรอบกฎหมายสากล ในส่วนของอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธตามแบบบางชนิด (Convention […]

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

สตง. แจงหลังคว้าอันดับ 1 องค์กรอิสระโปร่งใสสูงสุด

19 ส.ค. – สตง. เคลื่อนไหว แจงหลังคว้าอันดับ 1 องค์กรอิสระโปร่งใสสูงสุด ปี 68 ระบุมีการเก็บข้อมูลอย่างรอบด้านและหลากหลายมิติ จากกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คว้าอันดับ 1 องค์กรอิสระโปร่งใสปี 2568 ด้วยคะแนนสูงถึง 94.64 จากการประเมิน ITA หรือการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มีหน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมทั้งสิ้น 8,317 หน่วยงาน และมีผู้ตอบแบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากกว่า 1.35 ล้านความคิดเห็น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ออกเอกสารเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เนื้อหาใจความระบุว่า การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ใช้ในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการทุจริต ด้วยวิธีการส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐมีการดำเนินงานป้องกันการทุจริต โดยเป็นการดำเนินงานคู่ขนานกันไปกับมิติด้านการปราบปรามการทุจริต และมิติด้านการเสริมสร้างทัศนคติ ค่านิยมในความชื่อสัตย์สุจริต เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตในสังคมไทยเกิดผลสัมฤทธิ์ และเกิดความยั่งยืน โดยการประเมินเป็นเครื่องมือที่มีการเก็บข้อมูลอย่างรอบด้านและหลากหลายมิติ กำหนดระเบียบวิธีการประเมินผลที่เป็นไปตามหลักการทางสถิติ และทางวิชาการเพื่อให้ผลการประเมินสามารถสะท้อนสุขภาวะขององค์กรในด้านคุณธรรม และความโปร่งใสได้อย่างแท้จริง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจำปี 2568 โดยในการประเมินนั้นมีการเก็บข้อมูล 3 ส่วน ดังนี้ ทั้งนี้ […]