ตั้งเป้ารายได้ประชากรเพิ่มขึ้นปีละร้อยละ 5

สศช. 6 พ.ย. – กรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจวางกรอบแผนปฏิรูปเศรษฐกิจ 3 ด้าน กระตุ้นความเร็วการเติบโต กระจายโอกาสเศรษฐกิจฐานราก สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนใน 20 ปี


นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการ ว่า กรอบแนวคิดแผนปฏิรูปประเทศมี 3 ด้านหลัก คือ กระตุ้นความเร็วในการเติบโตของไทย เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศที่จะสร้างรายได้ในอีก 20 ปีข้างหน้า และช่วยทดแทนอุตสาหกรรมเก่าที่กำลังลดบทบาทลงไป โดยมีการวางเป้าหมายเป็นระยะสั้นใช้เวลา 1- 5 ปี เพื่อขจัดอุปสรรค ด้านต่าง ๆ ให้สามารถแข่งขันดียิ่งขึ้น  ระยะกลาง การพัฒนาตลาดให้มีความต่อเนื่อง ทั้ง CLMVT บังกลาเทศที่มีตลาดรวมกันถึง 400 ล้านคน โดยเชื่อมโยงผ่านโครงข่ายคมนาคม โดยให้ไทยเป็นฐานบริหารจัดการของภูมิภาคใช้เวลา 7-10 ปี และระยะยาว การก้าวเป็น Innovation Hub และ Startup Nation รายได้หลักมาจากนวัตกรรมของเราเอง รวมถึงการส่งเสริมวิจัยและพัฒนาใช้เวลา 15-20 ปี

ด้านต่อมา คือ การกระจายโอกาสเศรษฐกิจฐานราก วางแนวทางใหม่ของการพัฒนาประเทศที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของการพัฒนาที่แท้จริงช่วยกระจายความเจริญ ทั้งระดับประเทศ ระดับชุมชน และระดับบุคคล เพื่อสร้างความเข้มแข็งและสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้า 20 ปีอย่างน้อยรายได้ต่อหัว ต้องเป็น 12,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 397,000 บาทต่อคนต่อปี จากปัจจุบัน 6,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 198,000 บาทต่อคนต่อปี ซึ่งเฉลี่ยแต่ละปีต้องให้รายได้ของประชากรเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 5 และด้านสุดท้าย คือ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยต้องปรับปรุงกลไกที่มีอยู่และกลไกใหม่ให้มีการบริหารจัดการเศรษฐกิจของประเทศที่เป็น Top of Class ด้านต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับหน่วยงานยุทธศาสตร์ ฐานข้อมูลและระบบข้อมูล หน่วยงานด้านงบประมาณ เป็นต้น


ทั้งนี้ กรรมการปฏิรูปทั้ง 13 ชุด จะต้องมีรายละเอียดแนวคิดแผนปฏิรูปเศรษฐกิจประเทศออกมาภายในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ ส่วนแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนจะออกมาหลังศึกษาตัวอย่างจากต่างประเทศ เพื่อหาแนวทางเหมาะสมสำหรับประเทศไทย โดยประชาชนสามารถส่งความเห็นแผนปฏิรูปเศรษฐกิจประเทศมาได้ที่ www. econreform.or.th จนถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง